ตกขาว: อันตรายใกล้ตัวที่สาวๆ ต้องระวัง

ในปัจจุบัน มีโรคทางนรีเวชจำนวนมากที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ ซึ่งวิธีการรักษาที่เราคุ้นเคยและใช้กันมานานคือ การผ่าทางหน้าท้อง เป็นวิธีการผ่าตัดแบบมาตรฐาน แต่อาจทำให้มีแผลใหญ่ขนาด 8-10 นิ้ว และต้องใช้เวลาพักฟื้นนานเป็นเดือน ส่วนอีกวิธีคือการผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด แม้วิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดแผลที่หน้าท้อง แต่มีข้อจำกัดมาก แต่ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อที่ต้องการจะลดผลข้างเคียงของการรักษา ลดการบาดเจ็บ และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น จึงได้มีการนำวิธี “การผ่าตัดผ่านกล้อง (MIS)” มาใช้ในการผ่าตัดรักษาโรคทางนรีเวช

ตกขาวแบบปกติ มีลักษณะเปลี่ยนแปลงตามรอบประจำเดือน โดยขึ้นกับปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตโรน (Progesterone) จะมีลักษณะใสไม่มีสีหรือเป็นสีขาวที่ไม่มีกลิ่นเหม็น มีปริมาณไม่มากและไม่ก่ออาการคัน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

สำหรับตกขาวแบบผิดปกติ เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้กลิ่น สี และลักษณะของตกขาวจะเปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลดังกล่าว ได้แก่

• การใช้ยาแก้อักเสบหรือสเตียรอยด์
• การติดเชื้อแบคทีเรีย Bacterial Vaginosis ซึ่งพบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์
• การใช้ยาคุมกำเนิด
• เบาหวาน มะเร็งปากมดลูก
• การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในเทียม (Chlamydia) หรือหนองในแท้ (Gonorrhea)
• การทำความสะอาดด้วยสบู่ที่เป็นด่างมากเกินไป
• การติดเชื้อรา ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ปีกมดลูก รังไข่
• การติดเชื้อปรสิต (Trichomoniasis) จากการมีเพศสัมพันธ์
• การอักเสบของช่องคลอด
• การสวมใส่กางเกงในรัดแน่น อากาศไม่ถ่ายเท

ตกขาวแบบไหนที่ “ไม่ปกติ”

• ตกขาวมีสีปนเลือดหรือมีสีน้ำตาล ประจำเดือนมาผิดปกติไม่ตรงรอบ อาจมีอาการปวดท้องน้อยหรือมีเลือดออกผิดปกติร่วมด้วย ลักษณะแบบนี้เกิดจากมะเร็งโพรงมดลูกหรือมะเร็งปากมดลูก แต่มีโอกาสพบได้ไม่บ่อยนัก
• ตกขาวมีสีขุ่นหรือสีเหลือง อาจมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) โดยจะมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน หรือมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
• ตกขาวสีเหลือง เขียว มีฟองปน อาจเกิดจากการติดเชื้อปรสิต (Trichomoniasis) มักมีอาการปวดและคันเวลาปัสสาวะร่วมด้วย
• ตกขาวสีชมพู พบได้ในหญิงหลังคลอด เนื่องจากการลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก
• ตกขาวมีสีขาวหนาเป็นก้อน เกิดจากการติดเชื้อราจนมีอาการบวม แดง คันบริเวณอวัยวะเพศ เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
• ตกขาวที่มีสีขาวเทาหรือสีเหลือง มีกลิ่นคาวเหมือนปลา เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการคัน แสบ แดง และบวมบริเวณอวัยวะเพศ

สำหรับคุณสุภาพสตรีควรหมั่นสังเกตอาการตกขาวของตัวเอง หากเกิดความผิดปกติอย่านิ่งนอนใจ ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัย รักษาและป้องการการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอย่างทันท่วงที