โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์: เด่นปี 2565 รักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำครบ 65 เคสเป็นที่แรกของไทย

กินปัสสาวะ ไม่ไร้สาระ คือ ข้อเสียอันตราย ประโยชน์ ฉี่

ปัจจุบัน ประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้วงการสาธารณสุขทั่วโลกมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะในผู้สูงวัย หนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุดในชายสูงวัย คือ โรคต่อมลูกหมากโต ที่มีโอกาสพบได้ถึง 50% ในชายวัย 50 ปีขึ้นไป และ 70% ในวัย 60 ปีขึ้นไป ซึ่งหากมีอายุยืนยาวมากขึ้นถึง 85 ปีขึ้นไป ก็ยิ่งพบได้สูงขึ้นถึง 90%

โรคนี้จะสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ผู้ป่วยชายที่มาพบแพทย์จะมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มักจะมีอาการปัสสาวะไม่พุ่ง ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ตื่นปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ปัสสาวะเสร็จแล้วแต่รู้สึกไม่สุด เป็นต้น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ อาการและความรุนแรงของโรคของแต่ละคนจะแตกต่างกัน โดยอาการจะเป็นมากหรือน้อยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของต่อมลูกหมาก

โรคต่อมลูกหมากโต เป็นโรคที่พบบ่อยในชายสูงวัย ซึ่งมีโอกาสพบได้ถึง 50% ในชายวัย 50 ปีขึ้นไป และ 70% ในวัย 60 ปีขึ้นไป หากมีอายุยืนยาวมากขึ้นถึง 85 ปีขึ้นไป ก็ยิ่งพบได้สูงขึ้นถึง 90% การรักษามีทั้งการกินยา ผ่าตัด และล่าสุด “เทคโนโลยี” ไอน้ำ ซึ่งเป็นทางเลือกให้ผู้ป่วย

บำรุงราษฎร์ เดินหน้าคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาแบบแผลเล็กอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศความสำเร็จในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ การันตรีผู้ป่วยกว่า 70 – 95% พึงพอใจผลการรักษา

โรคต่อมลูกหมากโต สัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ผู้ป่วยชายที่มาพบแพทย์จะมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มักจะมีอาการปัสสาวะไม่พุ่ง ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ตื่นปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ปัสสาวะเสร็จแล้วแต่รู้สึกไม่สุด เป็นต้น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยอาการและความรุนแรงของโรคของแต่ละคนจะแตกต่างกัน

ล่าสุดศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้นำเทคโนโลยีในการรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (Water Vapor Therapy) โดยไม่ต้องผ่าตัด เข้ามาใช้รักษาผู้ป่วยเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อต้นเดือนกันยายน 2564 ซึ่งได้ผลตอบรับจากผู้ป่วยในระดับที่ดีและมีผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ”

นพ. วิโรจน์ ชดช้อย หัวหน้าศูนย์ทางเดินปัสสาวะ และแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตรักษาด้วยไอน้ำ จำนวน 65 ราย มีอายุระหว่าง 60 – 80 ปี ที่เข้ารับการรักษาในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยรู้สึกพึงพอใจผลการรักษาในระดับสูง ร้อยละ 70 – 95 ซึ่งแพทย์ได้มีการนัดติดตามผล จำนวน 53 ราย เพื่อประเมินผลลัพธ์หลังการรักษา 1 เดือน

โดยภาพรวมการปัสสาวะของผู้ป่วยดีขึ้น ประกอบด้วย ผู้ป่วยสามารถปัสสาวะพุ่งแรงขึ้น และมีอัตราพุ่งแรงสูงสุดขณะปัสสาวะ เทียบระหว่างก่อนการรักษาอยู่ที่ 10.6 มิลลิลิตร/วินาที และหลังการรักษาเพิ่มขึ้นเป็น 22.5 มิลลิลิตร/วินาที, ผู้ป่วยรู้สึกปัสสาวะสุด โดยมีปริมาตรปัสสาวะคงเหลือลดลงเกือบ 3 เท่า (หรือ 90.7 -> 36.3 มิลลิลิตร) และมีปริมาณปัสสาวะในแต่ละครั้งมากขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 194 เพิ่มขึ้นเป็น 288 มิลลิลิตร, มีการเสียเลือดในปริมาณน้อยมาก คือ 0-10 มิลลิลิตร ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะเห็นผลชัดเจนหลังเข้ารับการรักษา 1 เดือน และเห็นผลสูงสุดตั้งแต่เดือนที่ 3 หลังจากการรักษา”

ผลลัพธ์การรักษาในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวความสำเร็จของบำรุงราษฎร์ในการรักษาผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ ซึ่งถือเป็นการรักษาครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นนวัตกรรมการแพทย์สมัยใหม่ที่ใช้กระบวนการรักษาเพียง 10 – 15 นาที โดยที่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ฟื้นตัวเร็ว มีความเสี่ยงต่ำ อวัยวะบอบช้ำน้อยทำให้สามารถกลับมาสู่สภาพทางสรีรวิทยาและกลับมาใช้งานได้เป็นปกติมากที่สุด และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศหรือส่งผลน้อยมาก ที่สำคัญ วิธีนี้ยังสามารถใช้ได้กับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน อีกด้วย  

โดยปัจจัยหลักๆ 3 ประการ ที่ทำให้ผู้ป่วยตัดสินใจเข้ารับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ ประกอบด้วย 

  1. เชื่อมั่นความชำนาญการและประสบการณ์ของทีมแพทย์ในการรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยวิธีไอน้ำ โดยแพทย์ชำนาญการด้านศัลยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะจะเป็นผู้ให้ข้อมูลและตอบข้อสงสัยอย่างละเอียดก่อนการรักษาเพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้ป่วยที่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้ 
  2. ไว้วางใจการทำงานเป็นทีมที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยจะรู้สึกเชื่อมั่น เมื่อเห็นถึงการทำงานของแพทย์และทีมที่ใส่ใจในรายละเอียดของผู้ป่วย โดยศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ถือเป็นหนึ่งในศูนย์ความเป็นเลิศ (Center of Excellence) ประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการด้านศัลยศาสตร์ยูโรวิทยาที่มีประสบการณ์เป็นผู้ทำหัตถการ พยาบาล เภสัชกร และทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความรู้และความชำนาญ พร้อมให้การดูแลผู้ป่วยตลอดระยะเวลาการรักษา รวมถึงติดตามผลหลังจากการรักษาเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด
  3. มั่นใจในชื่อเสียงและมาตรฐานการรักษาของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งให้การดูแลรักษาที่ครอบคลุม โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพในการรักษาเทียบเท่ามาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมถึงพิจารณาจากผู้ป่วยทั่วโลกที่นิยมเดินทางเข้ามารักษาที่บำรุงราษฎร์เป็นจำนวนมาก   

ที่ผ่านมา ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ไม่เคยหยุดพัฒนาและมุ่งยกระดับการรักษาในทุกปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก มะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะเพศทั้งชายและหญิงได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ศูนย์ทางเดินปัสสาวะมีแพทย์ชำนาญการรวมกว่า 25 ท่าน สามารถวิเคราะห์โรคและให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทันท่วงที พร้อมเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และบุคลากรที่ทุ่มเทและใส่ใจในการรักษาโดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นหัวใจสำคัญ 

[Total: 13 Average: 4.8]

Leave a Reply