ในปี 2014 ในสหรัฐอเมริกาพบว่าหนึ่งในสามของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จะให้กำเนิดบุตรด้วยการผ่าคลอด ซึ่งปกติแล้วผู้หญิงสามารถเลือกวิธีการให้กำเนิดบุตรของตนเอง ทั้งการคลอดแบบธรรมชาติและการผ่าตัดคลอดนั้นมีความปลอดภัย แต่หากเปรียบเทียบกันแล้วการคลอดธรรมชาติจะมีความปลอดภัยมากกว่า
สรุปข้อดีและข้อเสียของวิธีการคลอดของทั้งสองแบบ
ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ
– ระยะเวลาการพักฟื้นและการอยู่โรงพยาบาลสั้นกว่า
– ผู้เป็นแม่รู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า ทำให้ผู้หญิงที่คลอดบุตรรู้สึกได้ถึงความมีพลังในตนเองราวกับการประสบความสำเร็จขั้นหนึ่ง
– ทารกมีความเสี่ยงเรื่องปัญหาสุขภาพลดลง ได้แก่ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ ความดันโลหิตสูงในปอด หอบหืด แพ้อาหารและการแพ้แล็คโตสในน้ำนม
– ระยะเวลาการรอคลอดสำหรับลูคนที่สองและคนต่อ ๆ ไปจะสั้นและเร็วกว่า
– ทารกสามารถดูดน้ำนมจากมารดาได้เร็วกว่า
ข้อเสียของการคลอดแบบธรรมชาติ
– อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดไว้ระหว่างการรอคลอดและในระหว่างคลอด
– ทารกเสี่ยงการขาดออกซิเจนและเสี่ยงการได้รับบาดเจ็บระหว่างเคลื่อนผ่านช่องคลอด
– ผู้เป็นแม่มีความเสี่ยงมากขึ้นต่อภาวะปัสสาวะเล็ด
ข้อดีของการผ่าตัดคลอด
– ผู้เป็นแม่ไม่ต้องทนระหว่างการรอคลอดและยังสามารถกำหนดวันและเวลาที่ต้องการคลอดได้ด้วย
– ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของกระดูกเชิงกรานในผู้เป็นแม่ และลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ทารกอาจได้รับระหว่างคลอด
– ลดปัญหาการคลอดหลังกำหนด
– ลดความเสี่ยงที่ทารกอาจจะติดเชื้อจากมารดาที่เป็นโรคติดต่อทางเพศ
ข้อเสียของการผ่าตัดคลอด
– มีความเสี่ยงโดยทั่วไปของการผ่าตัดและเสี่ยงต่อผลข้างเคียงของยาสลบ
– เพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพในมารดา ได้แก่ ภาวะหัวใจวาย เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มและการติดเชื้อหลังการคลอดด้วย
– ทารกมีความเสี่ยงเพิ่มขึนในเรื่อง ความดันโลหิตสูงในปอด
– ในผู้หญิงบางส่วนพบว่าหากเคยผ่าคลอดแล้ว การคลอดลูกคนต่อ ๆ ไปอาจจะเลือกคลอดแบบธรรมชาติไม่ได้เนื่องจากความเสี่ยงต่อผนังหน้าท้องปริระหว่างเบ่งได้
5 thoughts on “คลอดธรรมชาติหรือผ่าตัดคลอดดี”