สถิตินี้มาจากโรงเรียนบ้านคลองบง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 30 มีนาคม 2562 จากนักเรียนตัวอย่างที่มีการสำรวจมีทั้งสิ้น 99 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
- เด็กอายุ 2-5 ปี เป็นชาย 22 คน และ หญิง 17 คน รวมจำนวน 39 คน
- เด็กอายุ 6-9 ปี เป็นชาย 16 คน และ หญิง 15 คน รวมจำนวน 31 คน
- เด็กอายุ 10-13 ปี เป็นชาย14 คนและ หญิง 15คน รวมจำนวน 29 คน
จากผลการสำรวจนั้นพบว่า มีเด็กที่เป็นพยาธิเข็มหมุดดังนี้
- เด็กอายุ 2-5 ปี เป็นชาย 1 คน คิดเป็นร้อยละ 4.54 และหญิง 1 คน คิดเป็นร้อยละ 5.88 รวม 2 คน คิดเป็นร้อยละ 5.13
- เด็กอายุ 6-9 ปี เป็นชาย 3 คน คิดเป็นร้อยละ 18.75 และหญิง 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 รวม 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.9
- เด็กอายุ 10-13 ไม่พบว่าเป็นพยาธิเข็มหมุดเลยแม้แต่คนเดียว
จากการทำวิจัยนี้ จะเห็นว่าเด็กผู้ชายจะมีโอกาสเป็นพยาธิเข็มหมุดมากกว่าเด็กหญิง เพราะอาจจะเด็กชายไม่ได้ใส่ใจในความสะอาดเท่าเด็กหญิง และที่ไม่พบพยาธเข็มหมุดในเด็กอายุ10-13 ปีนั้น ก็เพราะการดูแลรักษาความสะอาดทำได้ดีกว่าเด็ก 2 กลุ่มข้างต้น
การป้องกัน การติดเชื้อพยาธิเข็มหมุด
วิธีการป้องกันการติดเชื้อพยาธิเข็มหมุดไม่ให้กลับไปติดเชื้ออีก นั่นคือการปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะอนามัยและสุขอนามัย และแนะนำให้คนในครอบครัวต้องทำตามเช่นเดียวกัน
คุณสามารถป้องกันการติดเชื้อพยาธิเข็มหมุดด้วยการปฏิบัติตัวดังนี้:
- ตัดเล็บให้สั้นและรักษาความสะอาด
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเกี่ยวกับเล็บที่ทำให้ติดเชื้อพยาธิเข็มหมุด การกัดเล็บ หรือการเกา
- อาบน้ำทุกวันในตอนเช้า เพื่อกำจัดพยาธิเข็มหมุดที่อาจจะสะสมมาข้ามคืน
- ล้างมือของคุณด้วยน้ำอุ่นและสบู่ หลังจากเข้าห้องน้ำ ระมัดระวังเรื่องผ้าเช็ดตัว และเปลี่ยนผ้าเช็ดปากให้บ่อย ทำแบบนี้ทุกวันก่อนทำอาหารและกินอาหาร นี่คือการป้องกันการติดเชื้อพยาธิเข็มหมุดที่ดีที่สุด
- เปลี่ยนชุดชั้นในและเสื้อผ้าทุกวัน
- ใช้น้ำอุ่นซักเสื้อผ้าและใช้อากาศร้อนในการอบหรือตากเสื้อผ้า ผ้าห่ม หรือผ้าเช็ดตัวที่อาจมีไข่ของพยาธิเข็มหมุด
- ทำใหห้องมีแสงสว่างเพียงพอในระหว่างวัน เพราะไข่พยาธิเข็มหมุดจะตายเมื่อเจอกับความร้อน
[Total: 0 Average: 0]