ความรู้สึกไม่สบายที่บางส่วนของขาหรือทั้งขา ซึ่งมีระดับการปวดหลายระดับ มักเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และวัยทำงาน ซึ่งอาการปวดขาเหล่านี้อาจหายไปได้เอง หรือเป็นไม่กี่วันก็หาย แต่หากคุณไม่เพียงแค่ปวดขาอย่างเดียว แต่สังเกตุได้ว่ามีอาการปวดหลังร่วมด้วย นั่นอาจบอกได้ว่าคุณกำลังมีความผิดปกติจากความผิดปกติของหลังแล้วร้าวลงไปที่ขา
สาเหตุ ปวดขา
การปวดขาอาจมีสาเหตุที่ไม่ได้มาจากโรคพื้นเดิม ตัวอย่างเช่น การทำกิจกรรมที่ออกแรงมาก การขาดการทำกิจกรรม การยืนเป็นเวลานาน การบาดเจ็บ เอ็นหรือกล้ามเนื้อยืดเกินไปหรือฉีกขาด
อาการ ปวดขา
ปวดขามักมีลักษณะอาการและบริเวณที่ต่างกันไป โดยอาจรู้สึกปวดเสียด หรือปวดแสบบริเวณต้นขา หน้าแข้ง หรือน่อง การปวดขาอาจเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ หรือต่อเนื่อง และอาจดีขึ้นได้เองขณะพัก หรืออาจมีอาการอื่นเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น เหน็บชา ตะคริว ปวดร้าว หรือปวดตุบ ๆ เป็นต้น
อาการปวดขาอาจเป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆ ผู้ป่วยจึงควรพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้ เพื่อรับการรักษาและป้องกันการพัฒนาของอาการที่อาจเกิดขึ้น
- ปวดขามากขึ้นเรื่อย ๆ
- ปวดขาขณะทำหรือหลังทำกิจกรรม เช่น การเดิน
- ขาบวม หรือมีเส้นเลือดขอด
- ปวดต้นขาขณะนั่งเป็นเวลานาน
- ขาเริ่มซีด ฟกช้ำ บวม หรือเย็นผิดปกติ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
- มีสัญญาณการติดเชื้อ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส บริเวณที่ปวดเริ่มแดง กดแล้วเจ็บ
สัญญาณอันตรายที่ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที ได้แก่
- เดินไม่ได้
- เจ็บหรือปวดต้นขามาก ประกอบกับอาการบวมแดง
- มีเสียงเปราะดังขึ้นที่ขาขณะเกิดอุบัติเหตุ
- มีบาดแผลรุนแรง เช่น ถูกของมีคมบาดจนเห็นเส้นเอ็นหรือกระดูก
การรักษา ปวดขา
การรักษาด้วยตนเอง ผู้ป่วยสามารถใช้วิธีการต่อไปนี้ได้เพื่อบรรเทาอาการปวด ตะคริวหรือการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ
- พักการใช้ขา และวางขาไว้บนหมอนหรือตำแหน่งที่สูงกว่าลำตัว
- ประคบน้ำแข็งบริเวณที่รู้สึกปวดหรือเคล็ด 4 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 15 นาที
- รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล และแอสไพริน
- ใส่ผ้ารัดขาเพื่อช่วยป้องกันอาการบวม ลดการเกิดลิ่มเลือด และทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตในขาดีขึ้น
- อาบน้ำอุ่นช่วยคลายกล้ามเนื้อ
- หากผู้ป่วยปวดขาท่อนล่าง ให้ยืดหรือเหยียดนิ้วเท้าออกให้ตรง หรือหากมีอาการปวดขาท่อนบน ให้ก้มตัวลงแตะนิ้วเท้าเป็นเวลา 5-10 วินาทีเพื่อยืดเส้น
- ผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อเคล็ดหรือแพลงควรงดใช้ขา ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อลดความดัน และวางขาไว้ในตำแหน่งที่สูงกว่าลำตัว หรือรับประทานยาแก้ปวดร่วมด้วย เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน
- กรณีกระดูกหัก ควรทำการห้ามเลือดก่อนเป็นอันดับแรก และไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือเคลื่อนไหวบริเวณที่สงสัยว่ามีกระดูกหัก ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณดังกล่าว พร้อมตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีโอกาสเกิดอาการช็อคหรือไม่ แล้วจึงรีบติดต่อแพทย์