สิวที่หัวนม: คืออะไร อันตรายหรือไม่ เสี่ยงมะเร็งเต้านมหรือเปล่า

 สำหรับตุ่มที่ขึ้นบริเวณลานนมนั้น เป็นเพียงตุ่มไขมันชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Montgomery gland ซึ่งจะมีประมาณ 4-28 ตุ่ม คอยสร้างสารไขมันมาเคลือบผิวหนังที่ลานนม อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เมื่อร่างกายได้รับฮอร์โมนมากขึ้น เช่น ในช่วงที่คุณผู้หญิงมีประจำเดือน หรือกำลังกินยาคุมกำเนิด

ทั้งนี้ หากมีอาการปวด บวม เจ็บบริเวณดังกล่าว แสดงว่าตุ่มไขมันเกิดการอักเสบ สามารถรักษาได้เหมือนการรักษาผิวหนังอักเสบทั่วไป แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นมะเร็ง

อาการคันบริเวณหัวนมหรือลานนม ส่วนใหญ่มักเป็นปัญหาเรื่องผื่นแพ้สัมผัส โดยทั่วไปอาจมีสาเหตุมาจากการใส่ชุดชั้นในรัดแน่นเกิน  การแพ้สารเคมีในชุดชั้นใน ความอับชื้น ที่ส่งผลให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าขึ้นบริเวณหัวนม นอกจากนี้ในช่วงอากาศแห้งก็จะทำให้ผิวแห้ง เป็นขุย หลุดลอกได้ง่ายเช่นกัน วิธีป้องกันรักษาเบื้องต้นก็คือ ควรรักษาความสะอาดบริเวณนั้น อย่าปล่อยให้ความอับชื้นเกิดขึ้น ที่สำคัญพยายามอย่าเกาเพราะจะทำให้อาการลุกลามมากขึ้น และอาจใช้ยาแก้คันหรือยาแก้แพ้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

อย่างไรก็ตาม หากเป็นตุ่มบวมแดงแล้วทายามานานก็ยังไม่หาย อาจต้องสงสัยว่าเป็น “โรคมะเร็งที่หัวนม” (Paget’s disease of the breast) ได้เหมือนกัน ซึ่งโรคมะเร็งชนิดนี้ถือเป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิดหนึ่ง ที่ตรวจพบได้ยาก พบได้ไม่บ่อย และส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีใครคิดกันว่าจะเป็นสาเหตุของมะเร็งได้

อาการโรคมะเร็งที่หัวนมจะเริ่มเกิดขึ้นบริเวณภายนอกที่หัวนมและบริเวณรอบ ๆ ลานนม แรก ๆ จะดูเหมือนเป็นผื่นหรือเป็นสิวขึ้นธรรมดา แต่นาน ๆ ไปตุ่มที่คล้ายสิวจะเริ่มกลายเป็นแผล มีการตกสะเก็ด รวมไปถึงมีอาการคัน เจ็บ แสบ และมีน้ำเหลว ๆ ไหลออกมาจากบริเวณหัวนมด้วย

หากไม่มีคลำก้อนได้ น้ำเลือด/หนองไหลจากเต้านม เต้านมผิดรูป/รูปร่าง ขนาด ผิวสัมผัสเปลี่ยนไป ลักษณะข้างต้นเป็นลักษณะที่เสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมค่ะ หากมีแต่แผลภายนอก/หนองภายนอก หมอนึกถึงรูขุมขนอุดตันหรือการติดเชื้อผิวหัง แนะนำอาจจะรับประทานยาฆ่าเชื้อผิวหนัง7-10วันค่ะ แนะนำเป็นdicloxacillin สำหรับคนที่ไม่แพ้penicillin แต่หากมีหนอง อาจเพิ่ม clindamycin หรือเปลี่ยนเป็น Augmentin ได้

 ดังนั้น หากคุณสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีอาการแบบนี้ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจทันที เพื่อที่จะได้ทราบผลและเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าขืนปล่อยไว้จนเชื้อมะเร็งลุกลาม อาจจะรักษาได้ยาก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้นั่นเอง

[Total: 6 Average: 4.8]

Leave a Reply