สิว (Acne)

สิว (Acne) คือการที่บริเวณรูขุมขนบนใบหน้าหรือผิวหนังมีการอุดตันโดยน้ำมัน หรือคอมีโดน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย หรือไขมัน เกิดเป็นจุดเล็ก ๆ อาจจะมีอาการอักเสบ บวมแดง หรือไม่อักเสบก็เป็นได้ สิวนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรง แต่อาจจะทำให้ผู้ที่เป็นขาดความมั่นในใจในรูปลักษณ์ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วสิวมักจะเกิดได้กับคนในทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่นเนื่องจากวัยรุ่นมีฮอร์โมนที่สามารถผลิตน้ำมันในผิวได้มาก ได้สิว นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในตั้งแต่วัยทารก จนถึงวัยกลางคน

ประเภท สิว (Acne)

สิวอุดตัน แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ

  • สิวหัวขาว คือสิวอุดตันชนิดปิด ต้องทำให้หัวเปิดก่อนสิวถึงจะหลุดออกมาได้
  • สิวหัวดำ คือสิวอุดตันชนิดเปิด สามารถกดออกได้

สิวอักเสบ

  • สิวอักเสบประเภท Papule คือ สิวอักเสบระยะแรก เปลี่ยนมาจากสิวอุดตัน ลักษณะเป็นตุ่มแดงเจ็บขนาดเล็ก
  • สิวอักเสบประเภท Pastule คือสิวอักเสบตุ่มแดงเป็นหนองเล็ก ๆ ทำให้ผิวเจ็บ 
  • สิวอักเสบประเภท Cyst คือ สิวอักเสบเป็นตุ่มแดงใหญ่ ทำให้เจ็บมาก

สาเหตุ สิว

สาเหตุของสิวอักเสบเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันผิว และเซลล์ผิวที่ตาย ทำให้ผิวเกิดการอุดตัน หรือบางครั้งอาจจะเกิดจากฮอร์โมนที่มากไปทำให้ผิวผลิต น้ำมันออกมามาก หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวมีแบคทีเรีย 

ในบางครั้งอาหารก็เป็นต้นเหตุได้ การทานอาหารที่มีความมันมากไป อาหารที่ทำให้เกิดสิว เช่นเฟรนส์ฟราย หรือของหวานเช่นช็อคโกแลต จะทำให้เกิดสิวได้ด้วยเช่นกัน

สิวฮอร์โมนเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จะทำให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น หรือหากมีการตั้งครรภ์

ยาบางตัวเช่นยาคุมกำเนิดหรือการใช้สเตียรอยด์

การรักษา สิว

การรักษาด้วยตัวเอง

คุณสามารถบรรเทาอาการสิวได้เองที่บ้านด้วยวิธีดังต่อไปนี้ 

  • ทำความสะอาดผิวของคุณทุกวันด้วยสบู่อ่อน ๆ เพื่อขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก
  • รวบผมไม่ให้โดนหน้า และสระผมบ่อย ๆ 
  • เลือกเครื่องสำอางค์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน
  • ไม่บีบสิว หรือสัมผัสหน้าบ่อย ๆ 

นอกจากนี้ยังมียาทารักษาสิวดังนี้

ในการรักษาสิวบนใบหน้าด้วยตัวยาเหล่านี้ส่วนใหญ่มีส่วนผสมที่สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือลดความมันบนผิวและเป็นวิธีรักษาสิวอุดตันด้วยตนเอง เนื่องจากตัวยาเหล่านี้จะทำให้หัวสิวเปิดและหลุดออกมาเอง:

  • Benzoyl peroxide มาในรูปแบบครีม หรือเจล ช่วยทำให้สิวแห้งและหลุดออกไปเองได้ และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เป็นทางเลือกหนึ่งในวิธีรักษาสิวหัวดำ เป็นยาทาแก้สิวอักเสบได้
  • กรดซาลิไซลิกมักใช้ในสบู่และผลิตภัณฑ์ล้างสิว ช่วยป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน
  • Retinoic Acid (กรดวิตามินเอ) ใช้สำหรับรักษาสิวอุดตัน ลดความมันบนใบหน้า ผลัดเซลล์ผิว และละลายหัวสิว 
  • ซัลเฟอร์ (Sulfur) ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และผลัดเซลล์ผิว
  • Resorcinol ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

การพบแพทย์

หรือบางคนที่ใช้ยาทารักษาสิวแล้วยังไม่หาย อาจจะต้องพบแพทย์เพื่อปรึกษาที่จะหายาชนิดรับประทาน ซึ่งแพทย์อาจจะสั่งจ่ายยากินแก้สิวอักเสบได้ ดังนี้: 

  • ยาฆ่าเชื้อ เพื่อจัดการกับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว กรณีที่สิวมีอาการอักเสบมาก แต่จะไม่สั่งจ่ายให้ใช้นานเกินไปเนื่องจากร่างกายอาจดื้อยา
  • ยาแก้อักเสบรักษาสิวมักทานร่วมกันกับยาฆ่าเชื้อ
  • ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอหรือกรดวิตามินเอ (Isotretinoin) แบบรับประทาน เป็นยาลดความมันบนใบหน้า ช่วยผลัดเซลล์ผิว จะสั่งจ่ายให้กรณีที่เป็นสิวอักเสบแบบรุนแรงเท่านั้น  และมีผลข้างเคียง ควรใช้ตามแพทย์สั่งอย่างระมัดระวัง และมักจะใช้เป็นวิธีรักษาสิวหัวหนองที่รุนแรงให้แห้งลง
  • ในกรณีสิวเกิดจากฮอร์โมนในเพศหญิง แพทย์อาจจะสั่งจ่ายยาคุมกำเนิด เพื่อควบคุมหรือลดการผลิตฮอร์โมนให้

นอกเหนือจากยารับประทานแล้วยังมีวิธีอื่น ๆ ดังนี้

  • การบำบัดด้วยแสงโดยใช้ยาและแสงหรือเลเซอร์เพื่อลดการผลิตน้ำมันและแบคทีเรีย
  • การกรอผิว Dermabrasion ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รักษารอยแผลเป็นจากสิว
  • การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดต่าง ๆ ช่วยลดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และช่วยบรรเทาสิวที่ไม่รุนแรง  
  • ยาฉีดสิวอักเสบ โดยการฉีดสเตียรอยด์กรณีที่สิวรุนแรง และบวมมากอาจจะมีการฉีดเพื่อให้สิวยุบ
[Total: 0 Average: 0]