การส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ (Cystoscopy)

การส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ คือ หัตถการเพื่อตรวจด้านในของกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นเนื้อเยื่อที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะ โดยใช้ Cystoscope เป็นท่อยาวที่มีกล้องและไฟอยู่ที่ปลายท่อ ซึ่งจะมีช่องพิเศษที่สามารถใส่อุปกรณ์ชิ้นเล็กเพื่อเข้าไปทำหัตถการภายในเพื่อวินิจฉัย หรือแก้ไขปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะได้

อาการบ่งชี้ที่ควรมาพบแพทย์

• ปัสสาวะเป็นเลือด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะแสบขัดหรือกระปริดกระปรอย
• ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อย
• มีอาการปวดบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ หรือปวดขณะถ่ายปัสสาวะ

การเตรียมตัวก่อนทำการส่องกล้อง

✔️ผู้ป่วยอาจได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการส่องกล้อง
✔️รับการตรวจปัสสาวะ และผู้ป่วยจะต้องถ่ายปัสสาวะที่คั่งค้างออกจนหมด
✔️แพทย์อาจให้ให้ยาชาเฉพาะที่ทาบริเวณท่อปัสสาวะ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

วิธีการส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ

การส่องกล้องเพื่อการตรวจวินิจฉัยนี้จะทำภายใต้ยาชาเฉพาะที่ทาบริเวณท่อปัสสาวะก่อนทำ จากนั้นจะทำการหล่อลื่นบริเวณกล้องด้วยเจลชนิดพิเศษ ก่อนจะสอดเข้าไปทางท่อปัสสาวะ และเข้าไปเรื่อยๆ ตามทางเดินปัสสาวะจนถึงกระเพาะปัสสาวะ จากนั้นใช้น้ำกลั่นผ่านเข้าไปทางกล้องและเข้าในกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้โป่งออก ระหว่างที่ทำการตรวจ คุณจะต้องอธิบายว่ารู้สึกอย่างไรเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของคุณ น้ำกลั่นจะไปทำให้ผนังกระเพาะปัสสาวะขยายออกเพื่อให้แพทย์เห็นภาพภายในกระเพาะปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น เมื่อกระเพาะปัสสาวะขยายออกเต็มที่ คุณจะรู้สึกอยากปัสสาวะ แต่คุณจะต้องรอจนกว่าจะถอดกล้องออก โดยทั่วไปแล้วหัตถการนี้ใช้เวลา 5-20 นาที และเนื่องจากมีการใช้ยาชาทำให้คุณไม่รู้สึกเจ็บ อาจมีแค่ความรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่านั้น หลังการตรวจแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการส่องกล้อง แต่ถ้าทำการส่องกล้องเพื่อการรักษามักเลือกใช้การดมยาสลบ เช่น การขบนิ่วในท่อไต การใส่สายระบายในท่อไต การขบนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ การตัดเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ การตัดต่อมลูกหมาก เป็นต้น หลังการส่องกล้องแล้วต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล

[Total: 1 Average: 4]