การตัดชิ้นเนื้อจากลำไส้เล็กส่งตรวจ (Small – bowel biopsy)

การตัดชิ้นเนื้อลำไส้เล็กส่งตรวจ (Small – bowel biopsy) ใช้ประเมินโรคของเยื่อบุลำไส้เล็ก ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของการดูดซึมสารอาหารจากลำไส้ผิดปกติหรือมีอาการท้องเสีย การตรวจนี้จะได้ชิ้นเนื้อส่งตรวจที่ใหญ่กว่าการตัดชิ้นเนื้อผ่านการส่องกล้อง (endoscopic biopsy)

การตัดชิ้นเนื้อลำไส้เล็กส่งตรวจ ใช้ตรวจสอบความถูกต้องของการวินิจฉัยโรคบางโรค เช่น Whipple’s disease และอาจจะช่วยยืนยันอาการของโรคอื่น ๆ เช่น ท้องเดินที่เกิดจากการแพ้อาหาร (tropical sprue)

วัตถุประสงค์

เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคของเยื่อบุลำไส้เล็ก

การเตรียมผู้ป่วย

1.บอกผู้ป่วยว่าการตรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความผิดปกติของลำไส้
2.อธิบายถึงการตรวจและตอบคำถามที่ผู้ป่วยสงสัย
3.บอกผู้ป่วยให้งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนตรวจ
4.บอกว่าใครเป็นคนตรวจ สถานที่ตรวจ
5.ต้องแน่ใจว่าได้ตรวจการทดสอบการแข็งตัวของเลือด (coagulation tests) แล้ว และมีผลบันทึกไว้ในแฟ้มของผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว
6.ยังคงให้ยาแอสไพริน และยาต้านการแข็งตัวของเลือดตามแผนการรักษา หากต้องให้ยาเหล่านี้ต่อ ให้บันทึกไว้ในใบส่งตรวจด้วย

การตรวจและการดูแลหลังตรวจ

1.ตรวจสอบ turbe และ mercury bag ว่ารั่วหรือเปล่า
2.หล่อลื่น tube และปลอกหุ้ม (capsule) ด้วย water – soluble lubricant และทำให้ mercury bag ชุ่มชื้นด้วยน้ำ
3.พ่นยาชาด้านหลังของคอหอยเพื่อลดการขย้อน
4.บอกให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรง แหงนคอและกลืน tube ลงไปเรื่อย ๆ
5.หากผู้ป่วยได้รับยาชาเฉพาะที่ ใช้เพื่อควบคุมรีเฟล็กซ์การกลืน (gag reflex) จะต้องให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเพื่อกลืนแคปซูล
6.จัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคงขวา ใส่ tube ยาว 20 นิ้วหรือ 50.8 เซนติเมตร ซึ่งตำแหน่งของท่อได้รับการตรวจสอบโคย fluoroscopy หรือโดยใส่ลม (air) เข้าไปใน tube แล้วตรวจสอบลมโดยการฟังด้วย stethoscope จะได้ยินเสียงลมที่ผ่านเข้าไปในกระเพาะอาหาร
7.ต่อไปเมื่อใส่ tube เข้าไป 2 – 4 นิ้ว (5 – 10 เซนติเมตร) ในขณะที่ผ่านไปยัง Pylorus (คุยเกี่ยวกับอาหารให้ผู้ป่วยฟังเพื่อกระตุ้น pylorus และช่วยให้ท่อผ่านเข้าไปได้ง่ายขึ้น)
8.เมื่อ fluoroscopy ยืนยันว่าท่อผ่านไปถึง pylorus ควบคุมให้ผู้ป่วยนอนตะแคงขวา ตามดูว่าท่อเคลื่อนเข้าไปในส่วนที่สองและสามของลำไส้
เล็ก ๆ
9.บอกผู้ป่วยว่าอาจจะติดท่อไว้หลวมบริเวณปากข้างใดข้างหนึ่ง อาจจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น
10.ตรวจสอบตำแหน่งของท่ออีกครั้งโดย fluoroscopy เมื่อท่ออยู่เหนือ Ligamen of Treitz แล้วตัดชิ้นเนื้อ (แพทย์จะตัดสินใจเลือกตำแหน่งที่ตัดชิ้นเนื้อเอง)
11.จัดให้ผู้ป่วยนอนหงายเพื่อให้ตำแหน่งของท่อ โดยยืนยันความถูกต้องด้วย Fluoroscopy ใช้ syringe แก้ว 100 มิลลิลิตรใส่ที่ปลายของท่อและเตรียมเครื่องดูดให้ พร้อมเพื่อปิด capsule และตัดเนื้อเยื่อตัวอย่าง เครื่อง suction ต่อเข้ากับ syringe ขณะที่ tube และ capsule
เอาท่อออกแล้วเอา suction ออก
12.ใช้ forceps คีบเอาชิ้นเนื้ออกมาเบา ๆ วางเยื่อเมือกบนตาข่ายและใส่ในชวดที่ใส่ชิ้นเนื้อที่มี fixative ตามต้องการ

  1. ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้หลังจากแน่ใจว่าผู้ป่วยมีรีเฟล็กซ์การกลืนแล้ว
  2. แม้ภาวะแทรกซ้อนจะพบน้อย แต่ควรเฝ้าดูอาการแสดงของการเสียเลือด ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด มีไข้ มีอาการปวดท้อง และมีลำไส้ทะลุ บอกผู้ป่วยว่าให้บอกแพทย์ถ้ามีอาการปวดท้องหรือมีเลือดออก

ข้อควรระวัง
1.จัดให้มีเครื่องดูดไว้ใกล้ ๆ เพื่อป้องกันการสำลัก ถ้าผู้ป่วยอาเจียน
2.อย่าให้ผู้ป่วยกัดท่อ
3.หยิบจับเนื้อเยื่ออย่างระมัดระวัง และวางในสไลด์ให้ถูกต้อง
4.ส่งสิ่งส่งตรวจไปยังห้องตรวจทันที
5.การตัดชิ้นเนื้อมีข้อห้ามสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือ ในการตัดชิ้นเนื้อและได้รับยา aspirin หรือ anticoagulants เพราะยาสองตัวนี้ไม่สามารถควบคุมการแข็งตัวของเลือดได้

ผลการตรวจที่เป็นปกติ

ปกติชิ้นเนื้อของลำไส้เล็ก ประกอบด้วยวิลไลคล้ายนิ้วมือ เซลล์เนื้อเยื่อบุผิวชนิดคอลัมนาร์ (columnar epithelial cells) และเซลล์รูปร่างกลม (round cells)

ผลการตรวจที่ผิดปกติ

เนื้อเยื่อของลำไส้เล็ก ถ้าพบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์อาจจะบ่งชี้ถึงโรค Whipple’s disease, โรคเลือดไร้บีตาลิโพโปรตีน (abetalipoproteinemia) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma) ymphangiectasia ลำไส้อักเสบอีโอซีโนฟิลิค (eosinophilic enteritis) เช่น การติดเชื้อปรสิต (parasitic infections) โรคที่เกิดในผู้ติดเชื้อปรสิตชนิด Giardialamblia (giardiasis) และโรคบิด สิ่งส่งตรวจที่ผิดปกติอาจจะพบใน celiac sprue, tropical sprue, การติดเชื้อของทางเดินอาหารส่วนกระเพาะ และลำไส้เล็ก (infectious gastroenteritis) ขาดโฟแลตและวิตามินบี 12 (folate และ Vitamin B 12 deficiency) และภาวะทุพโภชนาการ (malnutrition)

[Total: 0 Average: 0]