IUI (Intra-uterine insemination) คือ การรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการฉีดน้ำอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งแพทย์จะนำอสุจิของฝ่ายชายไปคัดกรอง เพื่อเลือกตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ดี ร่วมกับให้ยากระตุ้นไข่ฝ่ายหญิง
และอัลตราซาวด์ เพื่อติดตามดูขนาดของไข่ เพื่อกำหนดวันฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก ในวันที่ฉีดน้ำอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก ซึ่งส่งผลให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น
ใครบ้างที่เหมาะจะเข้ารับการรักษาโดยการฉีดเชื้อ iui (IUI : Intra Uterine Insemination)
ฝ่ายหญิง
- ควรจะอายุน้อยกว่า 30 ปี หากอายุมากขึ้นความสำเร็จจะลดลง
- มีปัญหาปากมดลูกหรือคอมดลูกตีบ
- มีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือ PCOS
- ท่อนำไข่ต้องปกติทั้งสองข้าง หรืออย่างน้อยต้องดีหนึ่งข้าง
ฝ่ายชาย
มีเชื้ออสุจิที่วิ่งดีมากเพียงพอมากกว่ากว่า 5 ล้านตัวขึ้นไป
ใครที่ไม่แนะนำให้เข้ารับการรักษาโดยการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
- มีท่อนำไข่หรือปีกมดลูกอุด ตันทั้งสองข้าง หรือไม่มีท่อนำไข่เหลือแล้ว
- มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน จากภาวะเยื้อมดลูกเจริญผิดที่ระดับรุนแรง
- เคยฉีดน้ำเชื้อมามากกว่า 4- 6 รอบแล้วยังไม่ประสบผลสำเร็จ
- ฝ่ายชายมีเชื้อน้อยมากกว่า 1 ล้านหรือไม่สามารถหลั่งน้ำเชื้อได้
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนรักษา
- ฝ่ายหญิงและชาย รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เสริมด้วยวิตามินที่เหมาะสม
- ควรพักผ่อนเพียงพอ โดยนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- งดการสูบบุหรี่หรือดื่มสุรา เพื่อให้ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมน การรักษาได้ดียิ่งขึ้น
- ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด รายละเอียดดังที่กล่าวข้างต้น
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดเชื้อ
- ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
- อาจมีอาการปวดท้องหรือเลือดออกเล็กน้อย สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือเป็นไข้ร่วมด้วย แนะนำให้มาพบแพทย์ทันที
- ในบางกรณีอาจมียาฮอร์โมนที่แพทย์จัดให้รับประทานหรือเหน็บช่องคลอดอาจช่วยในการฝังตัวของตัวอ่อน ควรปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
จุดเด่นของวิธีการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
เนื่องจากการทำ IUI คือ การฉีดเชื้อมีหลักการใกล้เคียงกับธรรมชาติมาก สามารถทำได้ง่าย สะดวก ไม่ซับซ้อน ค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่สูงมากนัก อัตราตั้งครรภ์สะสมดีในช่วง 3-4 รอบของการรักษา
จุดด้อยของวิธีการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
พบว่าอัตราตั้งครรภ์ต่ำหากฉีดเกิน 4 รอบแล้วยังไม่สำเร็จ และแทบจะไม่พบความสำเร็จ กรณีฉีดเกิน 6 รอบ อธิบายได้ว่า ปัญหาที่ทำให้มีบุตรยาก ยังไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไขให้ตรงจุด ดังนั้นแนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยวิธีเด็กหลอดแก้ว เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการปฏิสนธิของตัวเชื้อและฟองไข่ได้ สามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนจนถึงระยะพร้อมฝังตัวได้ สามารถตัวคัดกรองหาตัวอ่อนปกติก่อนจะย้ายกลับได้ ซึ่งจะช่วยทำให้ประสบผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น