การรักษาด้วยแสง IPL (Intensive Pulsed Light)

IPL(Intensive Pulsed Light) คือ แสงที่มีช่วงคลื่นแสงกว้าง ความยาวคลื่นเริ่มตั้งแต่ 420 นาโนเมตร ถึง 1,200 นาโนเมตร ซึ่งนับเป็นคลื่นแสงหลากหลายความถี่จึงรักษาปัญหาผิวหน้าได้ครอบคลุมมีประโยชน์ทั้งในด้านการลบริ้วรอย จุดด่างดำ และและรอยแดงต่าง ๆ จะใช้ความยาวคลื่นไม่เท่ากัน อีกทั้งยังสามารถกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

IPL คือ วิธีรักษาปัญหาผิวในลักษณะเดียวกันกับการทำเลเซอร์ โดยจะใช้แสงที่มีความถี่คลื่นแสงหลายช่วงคลื่น คล้ายกับแสงแฟลชของกล้องถ่ายภาพ ยิงไปยังผิวหนังบริเวณที่มีปัญหาหรือต้องการกำจัดขน เซลล์เม็ดสีในผิวจะดูดซึมพลังงานแสงดังกล่าวและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้เม็ดสีที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำและริ้วรอยถูกทำลาย รวมทั้งช่วยกำจัดต่อมรากขน ป้องกันการเกิดขนบริเวณนั้น ๆ  แต่คลื่นแสง IPL จะกระจายตัวมากกว่าแสงเลเซอร์ และซึมเข้าไปยังชั้นผิวหนังแท้โดยไม่ทำลายหนังกำพร้าหรือผิวชั้นนอก ส่งผลให้ผิวหนังถูกทำลายน้อยกว่าการทำเลเซอร์ที่ยิงแสงออกมาเพียงช่วงความถี่เดียว

รอยโรคทางผิวหนังที่สามารถรักษาได้โดย IPL ได้แก่

  • รอยแดงจากสิว
  • หน้ามัน
  • สิวอักเสบ
  • รอยด่างดำ
  • กระ ฝ้า
  • เส้นเลือดฝอยแตก
  • ปานแดงชนิดตื้น
  • แผลเป็นจากสิว
  • ริ้วรอย
  • รูขุมขน
  • กำจัดขนใต้วงแขน หน้าแข้ง และหนวด

การรักษาโดย IPL สามารถทำในลักษณะผู้ป่วยนอกได้เหมือนการทำ Laser โดยทั่วไปใช้ระยะเวลาในการรักษา 4-6 ครั้ง แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เว้นระยะห่างครั้งละ 3-6 สัปดาห์

ข้อดีของการรักษาโดย IPL ได้แก่

1. ลำแสงของ IPL จะไม่ทำลายผิวหนังชั้นบนสุดซึ่งแตกต่างจาก Laser

2. ไม่ทำให้เกิดบาดแผล

3. ใช้เวลาในการรักษาแต่ละครั้งน้อยและผู้ป่วยสามารถทำงานได้ตามปกติ

ผลข้างเคียงของการรักษาโดย IPL เกิดขึ้นบ้างแต่ไม่รุนแรง เช่น

1. อาการเจ็บขณะที่ทำการรักษา

2. ในบางรายอาจมีผิวหนังแดง

3. ปวดแสบร้อน ซึ่งมักจะพบได้ใน 2-3 วัน หลังให้การรักษา

4. บางรายอาจจะเกิดเป็นรอยด่างขาว ซึ่งจะค่อยๆ จางหายได้เอง

5. ในบางรายอาจจะมีสีของผิวหนังเข้มขึ้นได้ แต่สามารถป้องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือใช้ครีมทากันแดด

ข้อควรรู้ก่อนทำ IPL
  1. ข้อเสียของ IPL คือ อาจทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดดมากขึ้น ทำให้ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวทุกวัน (กฎหลักเลยสำหรับคนที่อยากมีผิวสุขภาพดี ถึงไม่ทำ IPL ก็ต้องทานะคะ)
  2. ต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล ค่าใช้จ่ายต่อครั้งอาจจะไม่มาก แต่กว่าจะเห็นผลอาจเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่คิด หรือสูงกว่าทำเครื่องอื่นที่ราคาต่อครั้งแพงกว่า แต่เห็นผลเร็วกว่าและอยู่ได้นาน
  3. คนที่มีผิวคล้ำต้องระมัดระวังมากกว่าคนผิวขาว เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ เนื่องจากหากเลือกใช้ความยาวคลื่นที่ไม่เหมาะสม ผิวอาจดูหมองคล้ำได้ ยิ่งถ้าคุณเพิ่งกลับมาจากการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ริมทะเล ควรต้องชะลอการทำ IPLไว้ก่อนเพราะอาจทำให้ผิวไหม้หรือเกิดรอยคล้ำมากกว่าเดิม
  4. ผู้มีประวัติแพ้แสง มีประวัติการเป็นแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ไม่ควรทำ IPL
  5. ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรทำ
ทางเลือกอื่นนอกจาก IPL

IPL ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะช่วยขจัดริ้วรอย จุด หรือขนที่ไม่ต้องการได้ ทางเลือกอื่น ๆ มีดังนี้: 

เลเซอร์: เลเซอร์เป็นการใช้ความยาวคลื่นเดียวเพื่อจัดการกับขนที่ไม่ต้องการ ริ้วรอย ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด และจุดอื่น ๆ หากเลเซอร์ผลัดผิวชั้นบนออกไป จะถูกเรียกว่า การใช้เข็มจี้ (Ablative treatment) หากเป็นการรักษาแบบที่ผิวชั้นบนไม่หลุดออก จะไม่เป็นการรักษาแบบใช้เข็มจี้ (Nonablative) การรักษาแบบเลเซอร์จะทำน้อยครั้งกว่าการรักษาแบบ IPL และมันก็ใช้ได้ผลกับผิวที่มีสีเข้มด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 70,700 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ 

Fraxel เลเซอร์: Fraxel เลเซอร์ เป็นเลเซอร์แบบที่ไม่ใช้เข็มจี้ เพราะมันแผ่แสงลงไปใต้ผิวโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน สามารถใช้รักษาผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด ริ้วรอย และแผลเป็นจากสิวได้ หลังจากการรักษา ผิวจะฟื้นฟูตัวเอง คุณอาจต้องทำการรักษาหลายครั้งจนกว่าจะเห็นผล มีราคาประมาณ 2,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง 

[Total: 0 Average: 0]