Schirmer Test คือ วิธีการตรวจระดับตาแห้งที่จักษุแพทย์ที่ศูนย์เลสิคฯ จะตรวจในวันตรวจสภาพตาก่อนผ่าตัด เพื่อประเมินว่าผู้ป่วยมีภาวะตาแห้งหรือไม่ เนื่องจากภาวะตาแห้งเป็นอีก 1 ปัจจัยสำคัญที่มีผลในการพิจารณาทำเลสิค
ขั้นตอน การทดสอบวัดปริมาณน้ำตาสำหรับภาวะตาแห้ง (Schirmer’s Test)
ขั้นตอนการตรวจจะเริ่มจากการใช้กระดาษกรองมาตรฐานของ Whatman ที่มีขนาดกว้างประมาณ 5 มม. และยาวประมาณ 35 มม. พับด้านยาว 5 มม. เพื่อสอดเข้าไปในบริเวณร่องเปลือกตาล่างค่อนมาทางหางตา จากนั้นให้ผู้ป่วยหลับตาเป็นเวลา 5 นาที หลังจากครบเวลาแล้ว จะดูว่ากระดาษกรองเปียกเป็นความยาวเท่าไหร่ ในบางครั้งจะต้องหยอดยาชาให้กับผู้ป่วยก่อนที่จะสอดแถบกระดาษกรองเข้าไป เพื่อให้มั่นใจว่า น้ำตาที่ถูกสร้างขึ้น เป็นเฉพาะ basic tear เท่านั้น ไม่ใช่ reflex tear ที่จะถูกกระตุ้นเมื่อมีอาการระคายเคือง
การทดสอบ Schirmer’s test
ใช้กันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 จนถึงปัจจุบัน ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ต้องมีการสัมผัสตา ก่อให้เกิดความไม่สบายตา ระคายเคืองตา ใช้เวลาอาจนานเกินไปสำหรับเด็กที่จะให้ความร่วมมือในแต่ละครั้งของการวัด ค่าที่ได้คลาดเคลื่อนได้ อุปกรณ์ที่ใช้เป็นเพียงกระดาษกรอง Whatman paper No.40 ตัดให้ได้ขนาด 35 มม x 5 มม (ในปัจจุบันอาจมีกระดาษเฉพาะที่เรียก commercial Schirmer strip ซึ่งราคาแพงกว่า) โดยพับปลายกระดาษด้านหนึ่งที่ 5 มม เพื่อเกี่ยวกับร่องตาล่าง (lower fornix) ปล่อยส่วนยาวพาดไปกับเปลือกตาล่าง วัดรอยเปียกจากแถบกระดาษที่พาดบนเปลือกตาล่าง มีวิธีการตรวจ 2 แบบ ได้แก่
Schirmer test I
ตรวจวัดโดยไม่มีการหยอดยาชา จึงเป็นการวัดน้ำตาที่สร้างจากพื้นฐาน (basic tear) ที่มีการสร้างตามปกติ และน้ำตาที่สร้างจากมีการกระตุ้น (reflex tear) เพราะเมื่อไม่มียาชา ปลายกระดาษกรองจะไปถูกและกระตุ้นเยื่อบุตาที่สัมผัสถูก กล่าวคือ Schirmer I นี้ วัดทั้ง basic และ reflex tear ใช้เวลา 5 นาทีวัดกระดาษกรองที่เปียก ค่าปกติอยู่ที่ 8-33 มม ถ้าได้ค่าที่ 5 มม หรือน้อยกว่า ถือว่าผิดปกติชัดเจน โดยทั่วไปหากต่ำกว่า 10 มม ก็คือว่าเริ่มผิดปกติแล้ว
หากต้องการวัดน้ำตาเฉพาะพื้นฐาน ต้องหยอดยาชาก่อน ยาชาจะช่วยลดอาการแสบตา ไม่สบายตา reflex tear ออกไป ค่าปกติควรมากกว่า 10 มม กล่าวคือ ถ้าได้น้อยกว่า 3 มม บ่งว่าผิดปกติ ค่า 3-10 มม อยู่ในเกณฑ์ก้ำกึ่ง การตรวจ Schirmer I จึงระบุว่าหยอดหรือไม่หยอดยาชา ซึ่งจะได้ค่าที่ต่างกัน
Schirmer test II
เป็นการตรวจแบบ Schirmer I ที่ใช้ยาชาหยอดตามด้วยใช้ไม้พันสำลีสอดเข้าไปในโพรงจมูก เพื่อกระตุ้นให้เกิดระคายเคืองโพรงจมูก ทำให้มีการสร้างน้ำตาเพิ่มขึ้น ค่าปกติจึงควรได้มากกว่า Schirmer I ที่ใช้ยาชา วิธีนี้มักไม่นิยมทำกัน เพราะยุ่งยากกว่า
โดยสรุป การวัดปริมาตรของน้ำตาชนิด aqueous นิยมใช้ Schirmer test I ซึ่งต้องระบุว่าหยอดหรือไม่ได้หยอดยาชา ถ้าไม่หยอดยาชา ค่าที่ต่ำกว่า 10 มม ถือว่าผิดปกติ ถ้าหยอดยาชาคือได้น้อยกว่า 3 มม เป็นค่าที่ผิดปกติ
ในปัจจุบันหากผุ้ป่วยมีอาการตาแห้งร่วมกับการตรวจพบสัญญาณตาแห้งบนกระจกตา ก็สามารถวินิจฉัยได้เลยว่าเป็นโรคตาแห้ง โดยแพทย์อาจไม่ได้ตรวจ Schirmer’s test
การวัดผลระดับตาแห้งจาก การทดสอบวัดปริมาณน้ำตาสำหรับภาวะตาแห้ง (Schirmer’s Test)
- ระดับปกติ กระดาษกรองจะเปียกเป็นความยาว มากกว่าหรือเท่ากับ 15 มม.
- ตาแห้งน้อย กระดาษกรองจะเปียกเป็นความยาว 9-14 มม.
- ตาแห้งปานกลาง กระดาษกรองจะเปียกเป็นความยาว 4-8 มม.
- ตาแห้งมาก กระดาษกรองจะเปียกเป็นความยาวน้อยกว่า 4 มม.