ปวดส้นเท้า

ความรู้สึกไม่สบายที่ด้านหลังส้นเท้าหรือด้านใต้ส้นเท้าที่อาจทำให้การเดินไม่สะดวกหรือยากลำบาก

สาเหตุทั่วไปของอาการ

การปวดส้นเท้าอาจมีสาเหตุที่ไม่ได้มาจากโรคพื้นเดิม ตัวอย่างเช่น การใส่รองเท้าที่ไม่พอดี การใส่รองเท้าส้นสูง การยืนนานเกินไป การใช้เท้ามากเกินไป เช่น การเดินระยะไกลหรือการเดินมาราธอน เอ็นหรือกล้ามเนื้อยืดเกินไปหรือฉีกขาด หรือบาดแผล

การรักษาด้วยตนเอง

การพักเท้าและการหลีกเลี่ยงการวิ่ง การยืนเป็นเวลานาน และการเดินบนพื้นผิวที่แข็งอาจช่วยบรรเทาอาการปวดส้นเท้าได้ การใช้น้ำแข็งประคบไม่เกิน 20 นาที วันละ 3 ครั้ง และการใช้ที่รองส้นเท้าหรือรองเท้าส้นเตารีดอาจช่วยได้เช่นกัน

มองหาการดูแลทางการแพทย์

ไปพบแพทย์ในกรณีต่อไปนี้

  • ปวดส้นเท้าแม้จะอยู่เฉยๆ
  • ปวดต่อเนื่องหรือแย่ลงในช่วง 3-4 สัปดาห์ขึ้นไปทั้งที่มีการดูแลรักษาด้วยตัวเองแล้ว
  • ทำงานหรือกิจกรรมประจำวันลำบาก

ไปพบแพทย์ทันทีในกรณีต่อไปนี้

  • ปวดและบวมอย่างรุนแรง
  • ปวดหลังได้รับบาดเจ็บ
  • บิดหรืองอเท้าลงไม่ได้
  • เดินไม่สะดวก
  • มีไข้ร่วมกับอาการชาหรือเสียวแปลบ

เอ็นร้อยหวายอักเสบ

การบาดเจ็บของเอ็นร้อยหวายที่เชื่อมกล้ามเนื้อน่องกับกระดูกส้นเท้า การแสดงอาการ:

  • ปวดส้นเท้า
  • ความเจ็บปวด
  • เจ็บตึงที่ส้นเท้า

กล้ามเนื้อฉีก

กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่เชื่อมกล้ามเนื้อและกระดูก (เส้นเอ็น) ยืดหรือฉีกขาด การแสดงอาการ:

  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • การจํากัดพิสัยการเคลื่อนไหว
  • ตะคริว

พังผืดอักเสบที่ฝ่าเท้า

การอักเสบของเนื้อเยื่อแถบหนาที่เชื่อมกระดูกส้นเท้าและนิ้วเท้า การแสดงอาการ:

  • ปวดส้นเท้า
  • ปวดเท้า
  • อาการกดเจ็บ

โรคเอ็นอักเสบ

ภาวะที่เนื้อเยื่อซึ่งเชื่อมต่อกล้ามเนื้อกับกระดูกอักเสบ

เท้าแบน

ภาวะที่ทั้งฝ่าเท้าสัมผัสแนบไปกับพื้นเมื่อยืน การแสดงอาการ:

[Total: 0 Average: 0]