โรคเอ็นอักเสบ คือการอักเสบของเอ็นกล้ามเนื้อซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยบริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อเข่า และข้อเท้า เมื่อเอ็นกล้ามเนื้ออักเสบจะมีอาการปวดและบวม เคลื่อนไหวเอ็นกล้ามเนื้อได้ลำบาก มีอาการฟกช้ำ มีก้อนบวมนูนตามกล้ามเนื้อ
สาเหตุของอาการบาดเจ็บสามารถเกิดได้ทั้งจากแรงกระทบภายนอก และบาดเจ็บจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งการบาดเจ็บจากแรงภายนอก เช่น แรงปะทะของนักฟุตบอลที่คู่ต่อสู้ยกเท้ามายันที่ต้นขาอย่างแรง ซึ่งมีกล้ามเนื้อต้นขาอยู่จนเกิดการฟกช้ำ เวลาถูกกระแทกฟกช้ำจะทำให้หลอดเลือดฝอยต่างๆ ฉีกขาด มีเลือดออกมาในชั้นกล้ามเนื้อ หรือหากกระแทกรุนแรงก็อาจมีการฉีกขาดของเส้นใยกล้ามเนื้อ มีเลือดออกมากขึ้น จึงเกิดอาการบวมภายใน 48 - 72 ชั่วโมงแรก
โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ ได้แก่
เอ็นกล้ามเนื้อในบริเวณใด ๆ ของร่างกายล้วนแต่เกิดการอักเสบขึ้นได้ทั้งนั้น แต่บริเวณที่เป็นบ่อยคือ หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อเข่า และข้อเท้า ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีอาการ ดังนี้
อาการของเอ็นอักเสบส่วนใหญ่มักดีขึ้นเองภายใน 2-3 วัน ด้วยการพักและดูแลรักษาตนเอง แต่หากพบว่ายังคงมีอาการรุนแรง ต่อเนื่อง กระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันเป็นเวลานานกว่า 2-3 วัน หรือคิดว่าเอ็นกล้ามเนื้ออาจฉีกขาด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
การรักษาภาวะเอ็นอักเสบในเบื้องต้นทำได้ด้วยการหยุดพักกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของเอ็นบริเวณที่อักเสบจนกว่าจะหายดี รวมถึงการดูแลรักษาด้วยตนเองซึ่งทำได้ดังนี้
ทั้งนี้ หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือยังคงมีอาการรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยควรรับการตรวจรักษาโดยแพทย์ ซึ่งวิธีการรักษาที่อาจนำมาใช้ มีดังต่อไปนี้
ยาที่แพทย์แนะนำสำหรับผู้มีอาการเอ็นอักเสบ ได้แก่
เป็นวิธีบำบัดรักษาโดยใช้การออกกำลังกาย เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของเอ็นกล้ามเนื้อที่อักเสบ รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ เช่น การเพิ่มความต้านทานของกล้ามเนื้อที่เน้นการเกร็งตัวในขณะที่มีการยืดตัว ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาการอักเสบเรื้อรังของเอ็นกล้ามเนื้อ
กรณีที่ภาวะเอ็นอักเสบมีอาการรุนแรงและนำไปสู่การฉีกขาดของเอ็น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เอ็นกล้ามเนื้อฉีกขาดออกจากกระดูก