หากมีอาการน่าสงสัย เช่น อาการชาที่ริมฝีปาก และลิ้น (อาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินร่วมด้วย) หรือแขนขนอ่อนแรง หลังกินปลาปักเป้าหรือ แมงดาถ้วย ควรให้การปฐมพยาบาลแล้ว รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลมันที และควรติดตามเฝ้าดู อาการอย่างใกล้ชิด หากพบว่าผู้ป่วยหยุดหายใจ ควรให้การช่วยเหลือ (เช่น เป่าปาก หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ) จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล
แพทย์มักจะวินิจฉัยจากลักษณะอาการ (ชา และ กล้ามเนื้ออ่อนแรง) และประวัติการกินปลาปักเป้าเป็นสำคัญ
การรักษา ให้การรักษาขั้นพื้นฐานมักจะต้องรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล และเฝ้าติดตามดูอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ จึงให้การรักษา แบบประคับประคองและแก้ไขตามอาการที่พบต่อไปเช่น ในรายที่หายใจไม่ได้ ต้องใส่ท่อหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจจนกว่าพิษจะถูกขับออกจากร่างกายจนหมด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 9-12 ชั่วโมง
- ควรให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วยทุกราย
- ถ้าความดันโลหิตต่ำมาก ให้ยากระตุ้นความดัน เช่น โดพามีน
- ชีพจรเต้นช้า ให้อะโทรฟีน หากไม่ได้ผลอาจต้องใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker)
- บางรายอาจให้นีโอสติกมีน (neostigmine) หรือ อีโดรโฟเนียม (edrophonium) ช่วยให้อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงดีขึ้น
ผลการรักษา หากได้รับการช่วยเหลือได้ทัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขอาการหายใจไม่ได้เนื่องจาก กล้ามเนื้อหัวใจเป็นอัมพาต)ผู้ป่วยมักจะรอดชีวิต และ ฟื้นหายเป็นปกติภายใน 24-48 ชั่วโมง