เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย คือ โรคที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย เป็นโรคที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง และมักจะหายได้เองภายใน 10-14 วัน  

สาเหตุ เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น สเตรปโตค็อกคัส สแตฟีค็อกคัส สูโดโมแนส ฮีโมฟิลุส เป็นต้น ติดต่อโดยการสัมผัสถูกนิ้วมือผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัวที่ปนเปื้อนเชื้อ

อาการ เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

มีอาการตาแดง หนังตาบวม มีขี้ตามาก มีลักษณะ เป็นสีเหลืองหรือสีเขียวบางรายตื้นขึ้นมาตอนเช้าพบว่า ตาติดกันจะลืมไม่ขึ้น ต้องใช้น้ำเช็ดออก ผู้ป่วยมักจะมีอาการอักเสบของตาทั้ง 2 ข้างโดยเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อนแล้วจึงลามมาอีกข้างหนึ่ง

ส่วนมากจะไม่มีอาการปวดตา หรือเคืองตามากไม่มีอาการคัน และต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูไม่โต

ข้อแนะนำ เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

  1. ห้ามใช้ยาหยอดตาหรือป้ายตาที่เข้าสตีรอยด์ เป็นอันขาด อาจทำให้โรคลุกลามเป็นอันตรายได้
  2. ถ้าพบอาการตาอักเสบในทารกแรกเกิด ควรนึกถึงตาอักเสบจากเชื้อหนองในไว้เสมอ
  3. เยื่อตาขาวอักเสบ (มีอาการตาแดง ตาแฉะ เคืองตา คันตา) อาจมีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสและจากการแพ้ ควรแยกให้ออกจากกัน เพราะการรักษา ต่างกัน

ถ้ามีการระบาด  มักเกิดจากไวรัส

การรักษา เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

ใช้ยาป้ายตาหรือยาหยอดตาที่เข้ายาปฏิชีวนะ เช่น ขี้ผึ้งป้ายตาแตตราไซคลีน ยาหยอดตา นีโดสปอริน ทุก 2- 4 ชั่วโมง และก่อนนอนควรใช้ชนิด ขี้ผึ้งป้ายตาเพื่อป้องกันมิให้ตาติดกันตอนตื่นนอน ก่อนใช้ยาทุกครั้ง ควรใช้น้ำสุกเช็ดขี้ตาออก

ถ้าหนังตาบวมมาก ให้กินยาปฏิชีวนะ เช่นไดคล็อกซาซิลลิน หรือิริโทรไมซิน ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวด ส่วนมากอาการจะดีขึ้นภายใน 2- 3 วัน ควรให้ยาต่อสัก 5 -7 วัน แต่ถ้าไม่ดีขึ้น ควรส่งโรงพยาบาล

[Total: 1 Average: 5]