โรคลมชัก

โรคลมชัก (Epilepsy) คือ โรคที่เกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลางที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย ซึ่งเป็นอาการชักที่เกิดอย่างเรื้อรัง เกิดอาการชักอย่างซ้ำๆ  อาการชักเกร็งเกิดจากการสั่งการของสมองที่เกิดขึ้นเร็วเกินไป

โรคลมชักนั้นมี 2 ประเภท คือ อาการชักที่มีผลต่อทุกส่วนของสมอง ซึ่งแสดงอาการที่มีผลต่อทุกส่วนของสมอง และอาการชักที่มีผลเฉพาะบางส่วนของสมอง ซึ่งแสดงอาการที่มีผลต่อบางส่วนของสมองเท่านั้น

โรคลมชักที่ไม่รุนแรงอาจไม่แสดงอาการที่เห็นชัด ซึ่งอาจใช้เวลา 2-3 วินาที ในระหว่างที่คุณนั้นไม่มีความรู้สึกใดๆ

สาเหตุ โรคลมชัก

โรคลมชักเป็นความผิดปกติทางระบบประสาทส่วนกลางที่เกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนไปถึง 65 ล้านคน ในทั่วโลก 

ทุกคนนั้นมีโอกาสเป็นโรคลมชักได้ แต่ส่วนใหญ่คนที่เป็นโรคลมชัก มักจะพบในวัยเด็กและผู้สูงอายุ โดยพบผู้ป่วยโรคลมชักเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

อาการ โรคลมชัก

อาการโรคลมชักที่มีผลต่อทุกส่วนของสมอง  สามารถเกิดอาการได้ทุกส่วนของสมอง ซึ่งมีอาการที่แสดงให้เห็นถึง 6 ประเภท มีดังนี้:

  1. อาการชักแบบเหม่อลอย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “อาการชักแบบเล็กน้อย” ซึ่งเกิดจากการมองเหม่อลอย อาการชักนี้มีการเคลื่อนไหวอย่างเล็กน้อยที่ซ้ำๆ เช่น การขยับริมฝีปาก หรือการกระพริบตา ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดการสูญเสียการรับรู้ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น
  2. อาการชักแบบอาการชักเกร็ง ซึ่งเกิดจากการกระตุกของกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่เกิดกับบริเวณหลัง แขนและขา
  3. อาการชักแบบกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และทำให้เกิดการหกล้มได้
  4. อาการชักแบบชักกระตุก มีลักษณะการเกิดอาการชักซ้ำๆในกล้ามเนื้อที่ผิดปกติ มักเกิดขึ้นกับหน้า คอ และแขน
  5. อาการชักแบบชักสะดุ้ง เกิดจากอาการชักที่แขนและขาเกิดขึ้นโดยเฉียบพลัน 
  6. อาการชักแบบชักกระตุกและเกร็ง มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “อาการชักลมบ้าหมู” ซึ่งมีอาการดังนี้:
    • ร่างกายแข็งทื่อ
    • ตัวสั่น
    • สูญเสียการควบคุมของกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้
    • กัดลิ้นตัวเอง
    • สูญเสียสติ

หลังจากที่เกิดอาการโรคลมชัก ผู้ป่วยจะจำอะไรไม่ได้ หรืออาจรู้สึกไม่สบายอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง

การรักษา โรคลมชัก

อาการโรคลมชักนั้นสามารถรักษาได้ ซึ่งแนวทางการรักษาโรคลมชักนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ สุขภาพ และการตอบสนองต่อการรักษา

แนวทางการรักษาโรคลมชักนั้น มีดังนี้:

  • ยาต้านอาการชัก(ยากันชัก ยาต้านจุลชีพ): ยาเหล่านี้แก้อาการโรคลมชัก ถ้าผู้ป่วยนั้นอยากให้อาการชักนั้นหายขาด ต้องใช้จำนวนยาตามที่แพทย์สั่ง
  • การกระตุ้นเส้นประสาท: โดยใช้อุปกรณ์นี้วางไว้ที่ใต้ผิวหนังบริเวณหน้าอกและใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นไปยังคอของคุณ เพื่อรักษาและป้องกันอาการโรคลมชักได้
  • การรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิก: ประชากรจำนวนมากกว่าครึ่งที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและคาร์โบไฮเดรตต่ำ
  • การผ่าตัดสมอง: การผ่าตัดสมองที่เกิดอาการชักกระตุก สามารถทำได้โดยนำส่วนของสมองที่มีปัญหาออกมา
[Total: 0 Average: 0]