พุงแบบนี้…บอกอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด

ข่าวสุขภาพ อัพเดต สาธาณสุข

หนึ่งในปัญหาที่หลายคนพบเจอมากที่สุดนอกจากเรื่องของความอ้วนแล้ว “พุง” ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความกังวลไม่น้อย บางคนไม่ได้อ้วนแต่มีพุง หรือบางคนลดน้ำหนักให้ตายยังไงพุงก็ไม่ลดจนทำให้รู้สึกนอยด์ไม่เลยก็มี

ปัญหาลงพุงนั้นดูเผิน ๆ อาจจะมองได้ว่าเกิดจากการกินที่มากเกินไป แต่ความจริงแล้วเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องกินอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเราสามารถประเมินได้คร่าว ๆ จากลักษณะของพุงที่เกิดขึ้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เกิดปัญหาลงพุงไม่หาย ลองมาสำรวจกันดูว่าพุงของคุณมีลักษณะแบบไหน เพื่อให้แก้ปัญหาได้อย่างถูกจุดและบอกลาพุงน้อย ๆ ที่รักเราเสียเหลือเกินกันดีกว่า!

แบบที่ 1: พุงเครียด | Stressed Belly

มีลักษณะเป็นพุงชั้น ๆ เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุดังนี้
⛔ เมื่อเรารู้สึกเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายผลิตไขมันขึ้นที่บริเวณหน้าท้อง
⛔ การกินอาหารไม่ตรงเวลา อดมื้อกินมื้อ กินอาหารขยะมากเกินไป รวมไปถึงการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไปอีกด้วย
⛔ พุงแบบนี้เป็นสัญญาณของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) หรือโรคลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสีย

วิธีลดพุง :
✅ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดอัตราความเครียด เพราะถ้าเกิดอาการเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบเผาพลาญพลังงานจะทำงานไม่เป็นปกติ และอาจทำให้ร่างกายเกิดการสะสมน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเอาไว้มากขึ้น
✅ ลดการดื่มกาแฟ โดยไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว
✅ ออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนนอน เช่น โยคะ พิลาทีส เพื่อคลายเครียด และเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย

แบบที่ 2: พุงคนท้อง | Mommy Belly

พุงแบบนี้ เกิดขึ้นจาก
⛔ ภาวะหลังจากคลอด หน้าท้องของคุณแม่หลาย ๆ คนจะยังคงมีลักษณะเป็นชั้นแบบนี้อยู่ ซึ่งมักจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 เดือนกว่าจะยุบ ดังนั้นในช่วงนี้แนะนำว่ารอให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติก่อนจึงค่อยเริ่มออกกำลังกาย

วิธีลดพุง :
✅ เมื่อร่างกายเข้าที่แล้ว ค่อยๆ ออกกำลังกายด้วยท่าลดพุงเบาๆ
✅ กินอาหาร เช่น น้ำมันตับปลา เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเผาผลาญไขมันในร่างกาย รวมถึงกินไขมันที่มีประโยชน์ เช่น ไขมันจากถั่ว น้ำมันมะกอก เป็นประจำทุกวัน

แบบที่ 3: พุงหมาน้อย | Hormonal Belly

พุงช่วงล่างห้อย พุงด้านบนไม่ป่อง พุงแบบนี้เกิดจาก
⛔ กินขนมหวานมากเกินไป
⛔ การกินแป้งขัดสี เช่น ข้าว ขนมปัง และกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง
⛔ มักจะเป็นคนที่มีการใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยได้ใช้พลังงานมากนัก เช่น นั่ง ๆ นอน ๆ รวมถึงไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
.
วิธีลดพุง:
✅ ลดการกินคาร์โบไฮเดรตลง โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง แป้งขัดสี ฯลฯ
✅ กินอาหารที่มีไขมันต่ำ
✅ หันมากินอาหารที่มีประโยชน์ มีโปรตีนสูง เช่นไข่ต้ม อะโวคาโด อาหารที่มีไขมันดี ถั่ว ปลา และผักให้มากขึ้น
✅ ออกกำลังกายให้มากขึ้น อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือขยับเขยื้อนร่างกายมากขึ้น ไม่เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ
✅ ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกออฮอล์

แบบที่ 4: พุงกลม | Alcohol Belly

พุงแบบนี้เกิดจาก
⛔ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ รวมไปถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เนื่องจากแอลกอฮอล์จะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ย่อยอาหารได้ยากขึ้น เมื่อร่างกายไม่ย่อยอาหารก็จะเกิดเป็นพุงกลม ๆ เป็นชั้น ๆ ป่อง ๆ แบบนี้ ที่สำคัญแอลกอฮอล์ยังมีน้ำตาลและให้พลังงานสูง จึงไม่น่าแปลกใจที่คนที่ดื่มแอลกอฮอล์มักจะลงพุงในลักษณะนี้

วิธีลดพุง :
✅ ลด – ละ – เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ สุราอื่น ๆ
✅ เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ด้วยการกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เป็นปกติ

แบบที่ 5 พุงป่อง | Bloated Belly

พุงแบบนี้เกิดจาก
⛔ แก๊สในกระเพาะอาหารที่มากเกินไป ระบบย่อยอาหารที่ไม่ปกติ ทำให้มีอาการท้องอืด
⛔ พุงแบบนี้ไม่อันตรายเท่าแบบอื่น ๆ เพราะสามารถแก้ได้ง่าย เพียงเปลี่ยนวิธีกินอาหาร

วิธีลดพุง :
✅ ดื่มน้ำมาก ๆ
✅ กินอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
✅ เพิ่มการรับประทานอาหารจำพวกพืชผัก ผลไม้ ที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายหลังจากกินอาหารแล้ว
✅ ให้เดินเล่นสักพักเพื่อย่อยอาหาร เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

ที่มา Interpharma Thailand

[Total: 1 Average: 5]

Leave a Reply