ความรู้สึกไม่สบายที่เท้า
สาเหตุทั่วไปของอาการ ปวดเท้า
การปวดเท้าอาจมีสาเหตุที่ไม่ได้มาจากโรคพื้นเดิม ตัวอย่างเช่น ร้องเท้าที่ไม่พอดีเท้า ยืนนานเกินไป การใช้เท้ามากเกินไป เช่น เดินระยะไกลหรือเดินมาราธอน เอ็นหรือกล้ามเนื้อยืดเกินไปหรือฉีกขาด หรือบาดแผล
การรักษา ปวดเท้า ด้วยตนเอง
การพักเท้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ปวดมากขึ้น และการประคบเย็นนานไม่เกิน 20 นาทีวันละหลายๆ ครั้งอาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน หรือนาโพรเซน อาจช่วยได้เช่นกัน
ปวดเท้า เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
ไปพบแพทย์ในกรณีต่อไปนี้
- อาการบวมไม่ดีขึ้นใน 2-5 วัน
- มีอาการปวดต่อเนื่องหรือแย่ลง
- ทำงานหรือกิจกรรมประจำวันลำบาก
- มีอาการชา ปวดแสบปวดร้อน หรือเสียวแปลบ
ไปพบแพทย์ทันทีในกรณีต่อไปนี้
- มีบาดแผลเปิดหรือการผิดรูปอย่างชัดเจน
- ปวดหรือบวมอย่างรุนแรง
- ลงน้ำหนักที่เท้าไม่ได้เลย
- มีร่องรอยการติดเชื้อ เช่น มีรอยแดงหรือมีไข้
- บาดแผลไม่ดีขึ้น
โรคที่เกี่ยวข้องกับ ปวดเท้า
กล้ามเนื้อฉีก
กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่เชื่อมกล้ามเนื้อและกระดูก (เส้นเอ็น) ยืดหรือฉีกขาด การแสดงอาการ:
- ปวดกล้ามเนื้อ
- การจํากัดพิสัยการเคลื่อนไหว
- ตะคริว
ข้อเท้าแพลง
การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อข้อเท้าหมุน พลิก หรือหันไปในทางที่ผิดปกติ การแสดงอาการ:
- ปวดเท้า
- ปวดข้อเท้า
- ข้อเท้าหลวม
พังผืดอักเสบที่ฝ่าเท้า
การอักเสบของเนื้อเยื่อแถบหนาที่เชื่อมกระดูกส้นเท้าและนิ้วเท้า การแสดงอาการ:
- ปวดเท้า
- ปวดส้นเท้า
- อาการกดเจ็บ
ปลายประสาทอักเสบ
กล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการชา และอาการเจ็บปวดจากเส้นประสาทที่ถูกทำลาย มักเกิดที่มือและเท้า การแสดงอาการ:
- ปวดเท้า
- เหน็บชาและร้อนวูบทำให้ไม่สบายตัว
- ปวดแบบแสบร้อน/คล้ายเข็มทิ่ม
เกาต์
ข้ออักเสบประเภทหนึ่งที่อาการรวมถึงความเจ็บรุนแรง ผิวแดง และมีอาการกดเจ็บที่ข้อต่อ การแสดงอาการ:
- ปวดเท้า
- อาการบวม
- ข้ออักเสบ