การรักษาตับอ่อนอักเสบ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
- การรักษาตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
- โดยปกติ การรักษาผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน จะเป็นการให้สารน้ำผ่านทางหลอดเลือด และให้ยาบรรเทาอาการปวดที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยอาจต้องงดรับประทานอาหารและน้ำ เพื่อลดการทำงานของตับอ่อนจนกว่าอาการอักเสบจะทุเลาลง โดยแพทย์จะให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดดำ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ภาวะช็อก และรักษาสมดุลของเกลือแร่จนกว่าผู้ป่วยจะรับประทานอาหารทางปากได้
- สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องเข้าพักรักษาที่ห้องดูแลผู้ป่วยหนักหรือห้องไอซียู (Intensive Care Unit: ICU) โดยจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะตับอ่อนอักเสบอาจสร้างความเสียหายแก่หัวใจ ปอด หรือไตได้
- ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนตายได้ หากเกิดการติดเชื้อ อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายหรือตายแล้วออกไป
- หากนิ่วในถุงน้ำดีกำเริบ อาจจำเป็นต้องนำถุงน้ำดีออกหรือต้องผ่าตัดท่อน้ำดี โดยหลังจากนำนิ่วในถุงน้ำดีออกและการอักเสบได้หายไปแล้ว ตับอ่อนก็จะกลับมาทำงานเป็นปกติ
- ตับอ่อนอักเสบชนิดเฉียบพลันมักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน อาการของผู้ป่วยมักจะดีขึ้น และหายเป็นปกติหลังรับการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์
- การรักษาตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
- การรักษาตับอ่อนอักเสบเรื้อรังนั้นทำได้ยาก แพทย์จะพยายามรักษาด้วยการลดอาการปวด และช่วยจัดการปัญหาด้านโภชนาการ โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักจะได้รับเอนไซม์ของตับอ่อน และอาจจำเป็นต้องได้รับอินซูลิน รวมถึงปรับไปรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำด้วย
- การผ่าตัดอาจจำเป็นสำหรับผู้ป่วยบางราย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง คืนการระบายเอนไซม์หรือฮอร์โมนของตับอ่อน รักษาตับอ่อนอักเสบที่เกิดจากการปิดกั้นของท่อตับอ่อน หรือลดความถี่อาการกำเริบของโรค
- ผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบเรื้อรังต้องหยุดสูบบุหรี่ และหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่แพทย์และนักโภชนาการแนะนำ รวมไปถึงรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
[Total: 0 Average: 0]