ต่อมน้ำเหลืองโตส่วนใหญ่มีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อไวรัสโรคหวัด ส่วนโรคอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุได้เช่นกันมีดังนี้
สาเหตุจากโรคติดเชื้อที่พบบ่อย ได้แก่
- โรคหัด
- คออักเสบ (Strep Throat)
- การติดเชื้อที่หู
- การติดเชื้อที่ฟัน
- โรคโมโนนิวคลีโอซิส (Mononucleosis) โรคติดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสน้ำลายของผู้ป่วยโรคนี้
- โรคติดเชื้อเอชไอวี
- วัณโรค
- โรคติดเชื้อที่แผลหรือผิวหนัง เช่น โรคเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ
สาเหตุจากโรคติดเชื้อที่พบไม่บ่อย ได้แก่
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น ซิฟิลิส หนองใน
- โรคแมวข่วน การติดเชื้อแบคทีเรียจากการถูกแมวที่ติดเชื้อข่วนหรือกัด
- โรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) โรคติดเชื้อจากปรสิตที่เกิดจากการสัมผัสกับอุจจาระของแมวที่ติดเชื้อหรือการรับประทานอาหารที่ปรุงไม่สุก
สาเหตุจากโรคความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคการอักเสบเรื้อรังที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเนื้อเยื่อตามแนวข้อต่อ
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคอักเสบเรื้อรังอีกชนิดหนึ่งที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายข้อต่อ ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือด และอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ปอด และไต
สาเหตุจากโรคมะเร็ง
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นมะเร็งที่ก่อตัวขึ้นในระบบน้ำเหลืองโดยตรง
- โรคลูคีเมีย โรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นกับเซลล์เม็ดเลือดขาว ไขกระดูก และระบบต่อมน้ำเหลือง
- มะเร็งชนิดอื่น ๆ ที่เกิดการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง เช่น มะเร็งเต้านม
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือใช้ยา เช่น ยาต้านชักเฟนิโทอิน (Phenytoin) และยาป้องกันโรคมาลาเรีย ก็อาจมีผลทำให้เกิดภาวะต่อมน้ำเหลืองโตได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยมาก
[Total: 0 Average: 0]