การตรวจสมรรถภาพปอด (Pulmonary function test)
กรตรวจสมรรถภาพปอด (Pulmonary function test หรือ Lung function test) เป็นการตรวจหน้าที่การระบายอากาศหายใจ โดยใช้สไปโรมิเตอร์ (spirometer)ใช้สำหรับตรวจผู้ป่วยที่สงสัยวาปอดทำหน้าที่ผิดปกติ
วัตถุประสงค์
1.เพื่อประเมินการระบายอากาศหายใจก่อนผ่าตัด
2.เพื่อประเมินผลก่อนและหลังจากการักษาด้วยยาขยายหลอดลม
3.เพื่อวิเคราะห์แยกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังว่าเป็นชนิดใด เช่น ปอดถูกจำกัดการขยายตัวหรือปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่ (restrictive) พบในผู้ป่วยผ่าตัดปอดออกทั้ง 2 ข้าง (pneumonectomy) มีพังผืดเกาะในปอด (pulmonary fibrosis) ปอดอักเสบ หรือปอดบวม (pneumonia) หรือปอดมีการอุดกั้น (obstructive) หรือมีความยืดหยุ่น ตัวลดลง พบในโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (chronic bronchitis) หรือถุงลมปอดโป่งพอง (pulmonary emphysema)
การเตรียมผู้ป่วย
1.อธิบายวิธีการตรวจให้ผู้ป่วยทราบ
2.บอกผู้ป่วยให้งดยาขยายหลอดลมหรืองดสูบบุหรี่ 6 ชั่วโมงก่อนตรวจ
3.วัดและบันทึกส่วนสูงและน้ำหนักผู้ป่วยก่อนตรวจ
การตรวจและการดูแลภายหลังตรวจ
1.ให้ผู้ป่วยหายใจเข้า – ออกผ่านกระบอกสูบหรือท่อที่ต่อกับสไปโรมิเตอร์ซึ่งจะบันทึกค่าตามที่ผู้ป่วยหายใจ
2. บอกผู้ป่วยให้หายใจเข้าลึก ๆ เท่าที่จะทำได้ และหายใจออกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. ผลที่บันทึกบนสไปโรมิเตอร์ จะนำมาคำนวณหาค่า FVC, FEV1, FEV1/ FVC และ MMEF
4.ให้ผู้ป่วยหายใจเข้า – ออกลึกและเร็วเท่าที่จะทำได้ 10 – 15 วินาที (โดยทั่วไปจะหายใจได้วินาทีละ 40 – 70 ครั้ง และจำนวนอากาศที่หายใจเข้าแต่ละครั้งจะมีค่าเป็น 50% ของปริมาณอากาศที่หายใจออกเต็มที่หลังจากการหายใจเข้าเต็มที่โดยไม่ต้องใช้แรงหรือความเร็วเข้าช่วย) ปริมาตรอากาศที่หายใจได้จะบันทึกบนสไปโรมิเตอร์ การทดสอบนี้จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที
5. ให้ผู้ป่วยพักระหว่างตรวจในรายที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจอย่างรุนแรง
ข้อควรระวัง
–ห้ามทำในผู้ป่วยที่มีความเจ็บปวด เพราะการตรวจนี้จะต้องบอกให้ผู้ป่วยหายใจเข้าและออกลึก ๆ
ผลการตรวจที่เป็นปกติ
FVC (Forced vital capacity) = 3,800 มิลลิลิตร
FEV1 (Forced expiratory volume in 1 second) = 3,000 มิลลิลิตร
MMEF (Maximal mid expiratory flow) = 360 ลิตร / นาที
MVV (Maximal voluntary ventilation) = 125 – 170 ลิตร / นาที
FVC (Forced vital capacity) คือ ปริมาตรของอากาศที่เป่าออกอย่างเร็วแรง จนหมด หลังจากหายใจเข้าอย่างเต็มที่ ผลการประเมินค่า
ค่า FVC แสดงถึงปริมาตรอากาศที่จุอยู่ในปอดเกือบทั้งหมด ค่าปกติ > 8 0%
ปริมาตรอากาศที่วัดได้เมื่อหายใจเข้าเต็มที่ แล้วหายใจออกหรือเป่าออกอย่างเร็ว แรง จนหมด FVC ถือเป็นดรรชนีที่สำคัญในการทดสอบหน้าที่การระบายอากาศหายใจที่ช่วยบอกเกี่ยวกับแรงต้านในทางเดินหายใจ และกำลังงานที่ใช้ในการหายใจ หากได้ค่าลดลงกว่าปกติ พบได้ในผู้ป่วยโรคปอดแบบ restrictive และ obstructive FEV1 (Forced expiratory volume in one second) คือ ปริมาตรของอากาศที่เป่าออกอย่างเร็ว แรง ในวินาทีที่ 1 ซึ่ง FEV1 นี้เป็นข้อมูลที่ใช้บ่อยที่สุดใน การตรวจสมรรถภาพปอด
ค่า FEV1 ใช้ค่าคำนวณร่วมกับค่า FVC เพื่อหาค่า FEV1/ FVC เป็น %
ค่าปกติ FEV1 > 80%
FEV1/ FVC% คือ ร้อยละของปริมาตรของอากาศที่เป่าออกมาได้ในวินาที ที่ 1 ต่อปริมาตาของอากาศที่เป่าออกมาได้มากที่สุดอย่างเร็ว แรง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่ สุดที่แสดงถึงการอุดกั้นของหลอดลม
ผลการประเมินค่า FEV1/ FVC% จะแสดงถึงความสามารถในการที่จะเป่า อากาศออกจากปอด ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแรงของผู้เข้ารับการตรวจ และลักษณะของทางเดินหายใจ ถ้าทางเดินหายใจถูกอุดกั้นหรือมีความยืดหยุ่นตัวลดลง อากาศจะผ่านออกลำบาก
ค่าปกติ FEV1/ FVC > 70 %
ผลการตรวจที่ผิดปกติ
ค่า FVC ลดต่ำลง เมื่อเนื้อเยื่อปอดมีการเปลี่ยนแปลงเกิดเป็นพังผืด หรือปอด ขยายตัวได้ไม่เต็มที่ เรียกภาวะนี้ว่า “Restrictive
(มีการจำกัดการขยายตัวของปอด)”
ค่า FEV1/ FVC ลดน้อยลงในภาวะ “obstructive (มีการอุดกั้นของ หลอดลมหรือมีการตีบของหลอดลม”