หากสงสัย ควรส่งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มักจะทำการวินิจฉัยด้วยการตรวจความผิดปกติระหว่างการนอนหลับด้วยวิธีที่เรียกว่า “polysomnography (PSG)” โดยต้องไปนอนค้างที่โรงพยาบาล แล้วใช้อุปกรณ์ตรวจวัดลักษณะการหายใจ และการเปลี่ยนแปลงของหัวใจปอด สมอง การเคลื่อนไหวของแขนขา ระดับออกซิเจนในเลือด
การรักษา โดยทั่วไปจะเริ่มต้นด้วยการให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่
- การลดน้ำหนักตัว ควรลดให้ได้มากกว่าร้อยละ10 อาจมีผลทำให้หายขาดในผู้ป่วยบางรายได้
- หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์และยานอนหลับก่อนเข้านอน เพราะจะทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้นได้ง่าย และหยุดหายใจนานขึ้น
- พยายามนอนในท่าตะแคง หรือท่าที่ทำให้อาการลดลง (สมัยก่อนมีการใช้ถุงใส่ลูกเทนนิส 3-4 ลูกติดไว้ด้านหลังของเสื้อนอน เพื่อบังคับให้ผู้ป่วยนอนตะแคง)
- งดสูบบุหรี่
ถ้าไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง อาจให้การรักษาเพิ่มเติม ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายวิธี ดังนี้
- การใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม ช่วยเพิ่มขนาดของทางเดินหายใจในช่วงนอนหลับ วิธีนี้ใช้ได้ผลในรายที่เป็นไม่รุนแรง
- การใช้เครื่องอัดอากาศเพื่อช่วยหายใจขณะนอนหลับ(continuous positive airway pressure/CPAP) มีลักษณะเป็นหน้ากากใช้สวมจมูกเวลานอน สามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นรุนแรง และได้ผลในการแก้ภาวะนี้ได้มากกว่าร้อยละ 90
- การผ่าตัดขยายทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ซึ่งมีอยู่หลายวิธี แพทย์จะเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพปัญหาของผู้ป่วยแต่ละราย ส่วนเด็กที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทอนซิลโตหรือต่อมอะดีนอยด์ (adenoid) โต ก็อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดทอนซิลหรือต่อมอะดีนอยด์
[Total: 0 Average: 0]