อาการบวมน้ำหรือแค่ท้วม

อาการท้องป่องเหล่านั้นเรียกว่า “อาการบวมน้ำ (Edema)” ค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นนะคะที่จะมีภาวะท้องป่องหรือตัวบวมได้ แต่ผู้ชายก็เป็นได้เช่นกัน

📌 อาการบวมน้ำเกิดจากอะไร ?
อาการบวมน้ำ เป็นภาวะที่มีน้ำหรือน้ำเหลืองสะสมคั่งค้างอยู่ภายในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของร่างกายในปริมาณมากจนทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย เช่น แขน ขา ข้อเท้า รวมถึงบริเวณหน้าท้องและทั่วทั้งตัว

โดยสาเหตุนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่ จากอาการเจ็บป่วย เช่น โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ต่อมน้ำเหลืองทำงานผิดปกติ โรคไต เป็นต้น หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาสเตียรอยด์ (Steroid) เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ ในชีวิตประจำวันที่ส่งผลให้สาวๆ และหนุ่มๆ ตัวบวม มาดูกันค่ะว่ามีสาเหตุมาจากอะไรบ้างง 

สาเหตุที่ 1 : นั่งอยู่กับที่น๊านนาน..จนเกิดการกดทับ

การนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดการกดทับ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน ทำให้ของเหลวในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก จึงเกิดการคั่งอยู่ ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง เช่น ก้น ขา เท้า ดังนั้น ควรเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ และเพิ่มการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดและของเหลวในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ

ชาวออฟฟิศอย่างเราๆ ที่ต้องนั่งทำงานจนแทบไม่มีเวลาว่างลุกไปไหน ลองออกกำลังกายง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

✅ ออกกำลังกายขณะที่นั่งบนเก้าอี้ โดยใช้เก้าอี้เลื่อนให้เป็นประโยขน์ ด้วยการใช้มือทั้ง 2 ข้างจับที่ขอบโต๊ะ ยกเท้าขึ้นจากพื้นเล็กน้อย แล้วผลักตัวเข้าออก
✅ ยักไหล่ทั้งสองข้างให้ใกล้ใบหู เมื่อสุดแล้วค้างไว้ 5 วินาที ก่อนจะปล่อยไหล่ลง

ถึงจะนั่งติดโต๊ะ แต่ก็อย่าลืมขยับตัวให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้นะคะ

สาเหตุที่ 2 : กินอาหารรสจัด หรือมีโซเดียมสูง

อาหารรสจัดก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราตัวบวม ! โดยเฉพาะรสชาติเค็มจัดนั้น มีปริมาณโซเดียมสูง 😰

โดยโซเดียมส่งผลต่อการดึงน้ำจากเส้นเลือดในร่างกาย ทำให้ปริมาณของเหลวในร่างกายเพิ่มขึ้น เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ จึงบวมขึ้น การกินอาหารรสเค็มจัดหรือมีโซเดียมสูง เช่น อาหารที่ใส่ผงชูรสหรือผงปรุงรส อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป รวมถึงอาหารหมักดอง จึงส่งผลทำให้ตัวบวมได้จริงๆ

⚠ดังนั้น นางเอกในซีรีย์ที่บ่นว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตอนกลางคืนไม่ได้ เพราะหน้าจะบวมจึงเป็นเรื่องจริงที่สุดค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีปริมาณโซเดียมสูงมากกกก ไม่เชื่อลองไปเช็คดูตรงฉลากโภชนาการกันได้ ว่าเกิน 1,000 มิลลิกรัมแน่นอน แล้วร่างกายคนเราต้องการโซเดียมเพียงแค่ 2,000 มิลลิกรัมเท่านั้น ! กินห่อนึงก็ล่อไป 50% แล้วนะเอ้อ !

สาเหตุที่ 3 : สวมเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่คับจนเกินไป

การสวมเสื้อผ้าที่มีขนาดเล็กกว่ารูปร่างของตนเอง หรือการใส่รองเท้าที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดเท้าตัวเองก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ เพราะการที่ร่างกายรู้สึกอึดอัด ทำให้เลือดและน้ำในร่างกายไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลให้เกิดภาวะบวมน้ำเฉพาะส่วนได้ แต่เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ภาวะบวมน้ำเหล่านี้ก็จะหายไป

แต่ที่สำคัญกว่าการเกิดภาวะบวมน้ำ คือการทำให้ระบบหายใจทำงานได้ไม่สะดวก หรืออาการบาดเจ็บ จนอาจส่งผลเสียต่อระบบเส้นประสาทจากการใส่รองเท้าที่เล็กกว่าขนาดเท้าจนรองเท้ากัดและบีบเส้นประสาทเท้า

⚠ ดังนั้นควรจะเลือกขนาดที่เหมาะกับตนเอง อย่าเลือกใส่เพียงเพราะมันสวยเลยนะคะ ไม่คุ้มกับสุขภาพของเราเลย

สาเหตุที่ 4 : ท้องผูก..จนระบบขับถ่ายพัง

อาการท้องผูก ทำให้เกิดการสะสมของเสียบริเวณลำไส้ใหญ่ โดยสามารถสะสมของเสียไว้ได้มากเป็นกิโลกรัมเลยทีเดียว ! ยิ่งมีอาการท้องผูกติดต่อกันระยะเวลาหนึ่ง ของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ใหญ่จะเริ่มผลิตแก๊สออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมและพุงป่องในที่สุด

ดังนั้น เราจึงควรรักษาสุขภาพ เลือกทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำตลอดวัน เพื่อป้องกันอาการท้องผูก โดยนอกจากผักผลไม้ที่เป็นแหล่งของใยอาหารแล้ว การทานอาหารที่มีไฟเบอร์ก็สามารถช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วยค่ะ