โรคอะโครเมกาลี (Acromegaly)คือ สภาวะที่เกิดจากฮอร์โมนที่พบได้ยาก ซึ่งเป็นผลมาจากโกรทฮอร์โมนในร่างกายมากเกินไป ภาวะดังกล่าวทำให้กระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนของร่างกายเจริญเติบโตมากเกินไป เด็กที่มีภาวะนี้จะมีความสูงที่ผิดปกติ พวกเขาอาจมีโครงสร้างกระดูกที่ใหญ่เกินจริง โรคอะโครเมกาลี ส่วนใหญ่ส่งผลต่อแขน ขา และใบหน้า
สาเหตุ โรคอะโครเมกาลี
โกรทฮอร์โมนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตและเสริงสร้างร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคอะโครเมกาลีจะมีโกรทฮอร์โมนปริมาณมากเกินความต้องการ ทำให้เร่งการเจริญของกระดูกและการเจริญเติบโตของอวัยวะต่างๆ เนื่องจากการกระตุ้นการเจริญเติบโตดังกล่าว กระดูและอวัยวะของผู้ที่เป็นโรคอะโครเมกาลีจะมีขนาดใหญ่กว่าคนทั่วไป
โกรทฮอร์โมนถูกสร้างภายในต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) มีรายงานจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (the National Institutes of Health :NIH) พบร้อยละ 95 ของผู้ที่เป็นโรคอะโครเมกาลีมีเนื้องอกที่ส่งผลต่อต่อมใต้สมอง เนื้องอกดังกล่าวเรียกว่า อะดีโนมา (Adenoma) เป็นเรื่องปกติที่พบได้ ส่งผลกระทบต่อผู้คนประมาณร้อยละ 17 ส่วนใหญ่เนื้องอกลักษณะนี้ไม่ก่อให้เกิดโกรทฮอร์โมนส่วนเกิน แต่เมื่อเกิดแล้วก็ส่งผลให้เกิดโรคอะโครเมกาลี
อาการ โรคอะโครเมกาลี
อาการของโรคอะโครเมกาลียากแก่การตรวจพบ เนื่องจากอาการจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่น คุณอาจสังเกตเห็นในช่วงหลายเดือนว่าคุณมีแหวนที่รู้สึกแน่นขึ้นที่นิ้วของคุณและวันนึงแหวนก็ใส่ไม่พอดีอีกต่อไป หรือคุณอาจต้องเพิ่มขนาดรองเท้าหากคุณมีภาวะนี้
อาการทั่วไปของโรคอะโครเมกาลี:
- กระดูกใบหน้า เท้าทั้งสองข้างและมือ ใหญ่ขึ้น
- เส้นผมในผู้หญิงเจริญเติบโตมากเกินไป
- กรามกรือลิ้นขยาย
- หน้าผากเด่นชัด
- การเจริญเติบโตที่มากเกินไป ที่พบในผู้ที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติก่อนวัยเจริญพันธ์
- น้ำหนักเกิน
- เกิดการปวดและบวมบริเวณข้อซึ่งทำให้จำกัดการเคลื่อนไหว
- เกิดช่องว่างระหว่างฟัน
- นิ้วมือและนิ้วโป้งกางออก
การรักษา โรคอะโครเมกาลี
การรักษาสำหรับโรคอะโครเมกาลีขึ้นอยู่กับช่วงอายุและสุขภาพโดยรวม เป้าหมายของการรักษาเพื่อ:
- ทำให้ระดับโกรทฮอร์โมนกลับมาผลิตในปริมาณปกติ
- ลดแรงดันโดยรอบเนื้องอกของต่อมใต้สมองที่กำลังเติบโต
- คงสภาพการทำงานที่ปกติของต่อมใต้สมอง
- รักษาภาวะขาดฮอร์โมนและปรับปรุงอาการของโรคอะโครเมกาลีให้ดีขึ้น