การให้สารเคมีบำบัดเฉพาะที่ผ่านทางหลอดเลือดแดงเข้าสู่ตับ (Transarterial Chemoembolization: TACE)

Transarterial Chemoembolization (TACE) คือ หัตถการที่ทำมากสุด เพราะใช้ได้กับมะเร็งตับทุกแบบ ที่ไม่สามารถผ่าตัดหรือใช้เข็มจี้ได้ หรีอบางรายสามารถใช้หัตถการนี้ แล้วทำให้ก้อนยุบลง แล้วตามด้วยการใช้เข็มจี้ร่วมกันในภายหลัง

TACE คือการนำยาเข้าไปรักษาที่ตัวก้อนเนื้องอกในตับโดยตรง วิธีนี้รังสีแพทย์ (IR) จะใช้สายสวนหลอดเลือดขนาดเล็กประมาณไส้ปากกา (2-3 มม.) สอดเข้าหลอดเลือดแดงจากบริเวณขาหนีบ และอาศัยกระบวนการภายใต้เครื่องเอกซเรย์ที่เห็นภาพเคลื่อนไหวจากจอได้ตลอดเวลา (DSA) เพื่อเคลื่อนสายสวนให้ขึ้นไปที่กลางลำตัว ต่อไปที่บริเวณตับและไปยังหลอดเลือด ที่ไปเลี้ยงตัวเนื้องอกโดยตรง แล้วจะฉีดยาเคมีบำบัด ผ่านสายสวนเข้าไปที่ก้อนเนื้องอก ขั้นตอนสุดท้ายจะฉีดฝอยโฟมขนาดจิ๋ว เพื่ออุดกั้นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนเนื้องอกให้ขาดเลือดและเซลล์เนื้องอกตาย

ขั้นตอนการทำ TACE

การตรวจรักษาต้องกระทำในห้องเอ็กซเรย์หลอดเลือดโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณขาหนีบ และใส่สายสวนไปในหลอดเลือดแดงที่ตับ โดยแพทย์สามารถมองเห็นสายสวนเคลื่อนไปตามหลอดเลือดได้จากจอรับภาพจากเครื่องเอ็กซเรย์เมื่อสายสวนเคลื่อนไปยังจุดที่ต้องการ จึงทำการฉีดสารทึบรังสีเพื่อดูพยาธิสภาพอและลักษณะของหลอดเลือด จากนั้นจึงให้ยาเคมีบำบัดผสมสารทึบรังสี ฉีดเข้าบริเวณก้อนเนื้องอกและทำการอุดกั้นหลอดเลือดจนกระทั่งไม่มีเลือดไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง

ระหว่างทำหัตถการ TACE นี้ ผู้ป่วยไม่ต้องถูกวางยาสลบ เพียงแค่ฉีดยาชาเล็กน้อยบริเวณขาหนีบ ก็จะไม่มีการเจ็บปวดใดๆ โดยแผลที่เจาะหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบมีขนาดไม่ถึงครึ่งเซนติเมตร และใช้เวลาอยู่โรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน

หลังจากทำแล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการข้างเคียงบ้างเล็กน้อยเช่น ไข้ จุกแน่นท้อง คลื่นไส้ เพียงไม่กี่วัน ก็จะดีขึ้น

การรักษาวิธีนี้ จะทำให้เนื้องอกได้รับยาอย่างเต็มที่ ยาสามารถออกฤทธิ์อยู่ได้นาน ทำให้เนื้องอกฝ่อเป็นบางส่วน เนื้องอกยุบตัว และขนาดเล็กลง ในขณะที่ผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด ก็จะน้อยกว่ามาก เทียบกับการฉีดเข้าเส้นเลือดดำให้กระจายไปทั่วร่างกาย

การทำ TACE มีประโยชน์ต่อคนไข้มะเร็งตับอย่างไร

  1. ก้อนมะเร็งถูกทำลายโดยตรงจากยาเคมีบำบัดและจากการขาดเลือดไปเลี้ยง
  2. ปริมาณของยาเคมีบำบัดที่ใช้ปริมาณน้อยทำให้ลดผลข้างเคียงต่อร่างกายส่วนอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งตับ มักจะรู้ตัว และมาพบแพทย์เมื่อเนื้องอกมีขนาดใหญ่มากแล้ว การทำ TACE ไม่สามารถจะทำให้หมดได้ในครั้งเดียว จำเป็นจะต้องทำเพิ่มเติมอีกภายใน 2-3 เดือน และถึงแม้จะครอบคลุมเนื้องอกได้หมดทั้งก้อนแล้ว ก็อาจจะมีระดับเซลล์ที่เล็ดรอดและขยายขนาดขึ้นได้อีก จึงจำเป็นต้องติดตาม และให้การรักษาเพิ่มเติมตลอด อย่างต่อเนื่อง

อีกประการหนึ่ง ดังที่กล่าวไว้แต่ต้นแล้วว่า แม้กระทั่งการผ่าตัดทั้งก้อน ก็ยังไม่สามารถรักษามะเร็งตับให้หายขาดได้ การรักษาด้วยวิธี TACE ก็เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับการที่ไม่ได้รับการรักษาใดเลยในสมัยก่อน ปัจจุบัน TACE จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอายุเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเดือน ไปจนถึง 1-3 ปี หรืออาจมากกว่านั้นในบางราย แต่อย่างน้อยที่สุด ผู้ป่วยจะเจ็บปวดและทรมานจากโรคน้อยลง และสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสบายขึ้น และคุณภาพชีวิตดีขึ้น

Transarterial chemoembolization (TACE) หรือ transcatheter oily chemoembolization (TOCE)
แพทย์ทำการสวนหลอดเลือดเข้าทางขาหนีบ และสอดสายขนาดเล็กเข้าไปยังหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงตับ ถ้าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็ก แพทย์จะสอดสายสวนขนาดเล็ก (microcatheter) เข้าไปเพื่อให้ปลายสายอยู่ใกล้ก้อนเนื้องอกมากที่สุด หลังจากนั้นจึงให้ยาเคมีบำบัดผสมกับลิปิโอดอล (lipiodol) เข้าไปสะสมในก้อนเนื้องอก และอุดหลอดเลือดด้วยเม็ดโฟมเจลาตินขนาดเล็ก (gelatin sponge particle) เพื่อให้ก้อนเนื้องอกขาดเลือด และฝ่อตายไปในที่สุด วิธีนี้มักจะทำหลายครั้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ 

[Total: 0 Average: 0]