1. ควรแนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวดังนี้
- ขณะมีอาการกำเริบให้ผู้ป่วยเปลี่ยนท่ามา นั่งคอตรง ๆ หรือนอนหงายศีรษะตรงทันที
- ป้องกันไม่ให้อาการกำเริบซ้ำโดยการนอน หมุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบ อย่านอนตะแคงข้างที่มีอาการ เวลาลุกจากเตียงนอนให้ลุกอย่างช้า ๆ และนั่งอยู่ขอบเตียงสักครู่ก่อนจะยืนขึ้นอย่าก้มศีรษะต่ำหรือเงย มองขึ้นข้างบน หลีกเลี่ยงการทำงานที่ต้องก้มๆ เงยๆ การสะบัดผมหรือสะบัดคอเร็ว ๆรวมทั้งท่าอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้อาการกำเริบ
- หลีกเลี่ยงการขับหรือทำงานเกี่ยวกับ เครื่องจักร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
2. ถ้าอาการไม่มากและเป็นอยู่ช่วงสั้นๆไม่ต้องใช้ยารักษา แต่ถ้ามีอาการคลื่นไส้หรือโคลงเคลงมากและนานเป็นชั่วโมงๆ ก็ให้กินยาบรรเทาอาการ เช่นไดเมนไฮดริเนต ครั้งละ 1-2 เม็ด ซ้ำได้ทุก 6 ชั่วโมง
3. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์หรือมีอาการบ้านหมุนหรือาเจียนมากมีอาการหูอื้อหูตึง หรือแว่ว เสียงดังในหู เดินเซ แขนขาชาหรืออ่อนแรง พูดอ้อแอ้ กลืนลำบาก ตาเห็นภาพซ้อน หรือสงสัยมีความผิดปกติ รุนแรงอื่นๆ ควรส่งโรงพยาบาลอาจต้องทำการตรวจ พิเศษเพิ่มเติม เช่น ถ้าสงสัยโรคทางสมองอาจต้องตรวจ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ถ้าสงสัยความผิดปกติทางหู อาจต้องตรวจ สมรรถภาพของการได้ยิน(audiogram) ตรวจคลื่นไฟฟ้า เกี่ยวกับอาการตากระตุก (electronystagmagraphy/ENG ทดสอบเก้าอี้หมุน (rotator chair test)
ถ้าพบว่าเป็นอาการบ้านหมุนจากการเปลี่ยนท่า แพทย์จะทำการรักษาด้วยท่าบริหารศีรษะที่เรียกว่า “Epley maneuver ” (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Canalith repositioning maneuver “) ซึ่งเป็นการทำให้ผลึกหินปูน ในหลอดกึ่งวง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลอดกึ่งวงด้านหลัง) ไหลกลับเข้าไปที่กระเปาะยูทริเคิล วิธีนี้ทำเพียงครั้งเดียวช่วยให้อาการหายได้ทันทีถึงร้อยละ 80 รายที่ไม่หายอาจต้องทำซ้ำ เมื่อหายแล้วประมาณร้อยละ 30 ของผู้ป่วย มีโอกาสกำเริบซ้ำใน 1 ปี และร้อยละ 50 กำเริบใน 5 ปี เมื่อกำเริบก็ต้องรักษาด้วยวิธีนี้ซ้ำอีก
ในรายที่ทำวิธีดังกล่าวไม่ได้ผลหรือทนต่อผลข้างเคียง (บ้านหมุน คลื่นไส้ อาเจียน) ไม่ได้ หรือมีข้อห้ามทำ แพทย์จะสอนให้ผู้ป่วยทำท่าบริหารที่เรียกว่า “Brandt-Daroff exercise” โดยให้ทำเองที่บ้านทุกวัน วันละ 3 ครั้งนาน 2 สัปดาห์ (ส่วนใหญ่จะลุเลาเมื่อทำไปได้10 วัน) ในรายที่กำเริบบ่อยแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยทำท่าบริหารนี้ต่อเนื่องทุกวัน
ส่วนนายที่การรักษาดังกล่าวไม่ได้ผลและมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 1 ปี แพทย์อาจรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งได้ผลประมาณร้อยละ 90