ออทิสติก (Autism) คือ กลุ่มโรคเกี่ยวกับความผิดปกติพัฒนาการของระบบประสาท โดยโรคนี้มีชื่อทางการภาษาอังกฤษว่า Autism spectrum disorder (ASD)
กลุ่มความผิดปกตินี้จะมีลักษณะของความบกพร่องหรือมีปัญหาในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในสังคม ผู้ป่วยออทิสติกจะแสดงการเรียกร้องความสนใจในสิ่งที่ต้องการด้วยการแสดงออกทางพฤติกรรม
ออทิสติก (ASD) นั้นสามารถพบได้ทั่วไปในโลกโดยไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติหรือวัฒนธรรมใดๆ ออทิสติกพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 และข้อมูลจากมูลนิธิออทิสติกไทย ระบุว่าทุกๆ 1,000 คน พบผู้ป่วยออทิสติกหรือที่เราเรียกว่าเด็กพิเศษจำนวน 6 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นสูงขึ้นมากเรื่อย
ออทิสติก ประเภทต่างๆ
คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) ที่ตีพิมพ์โดย the American Psychiatric Association (APA) ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการแพทย์สำหรับการวินิจฉัยและจำแนกประเภทของออทิสติกที่มีอยู่หลากหลาย
ออทิสติกสามารถแบ่งเป็น 5 ประเภทหลักๆ (DSM-5) ได้ดังนี้
- ออทิสติกแบบมีหรือปราศจากข้อบกพร่องทางปัญญา
- ออทิสติกแบบมีหรือปราศจากข้อบกพร่องด้านการใช้ภาษา
- ออทิสติกที่เกี่ยวข้องจากการรับสารเคมี, ทางพันธุกรรม หรือสภาพแวดล้อม
- ออทิสติกที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติด้านระบบประสาท อารมณ์ หรือพฤติกรรม
- ออทิสติกร่วมกับคาทาเนีย (Catatonia)
ในผู้ป่วยบางรายอาจถูกวินิจฉัยว่ามีอาการออทิสติกร่วมกันมากกว่า 1 รายการจากรายการด้านบน
ผู้ป่วยออทิสติกอาจได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
- ความผิดปกติออทิสติก
- โรคแอสเพอร์เกอร์ (Asperger’s syndrome)
- พีดีดี เอ็นโอเอส (PDD-NOS)
- การสูญเสียทักษะของเด็ก CDD (Childhood disintegrative disorder)
สิ่งสำคัญในการวินิจฉัยออทิสติกคือต้องแน่ใจว่าประวัติการตรวจสอบไม่สูญหายไป เพื่อประโยขน์ทางการแพทย์ของผู้ป่วยที่จะไม่ต้องเริ่มตรวจสอบใหม่ทุกๆครั้งๆ การวินิจฉัยตาม DSM-5 นั้นครอบคลุมออทิสติกเกือบทั้งหมดอย่างโรคแอสเพอร์เกอร์เป็นต้น
สาเหตุ ออทิสติก
ออทิสติกเกิดจากอะไรนั้นไม่สามารถทราบได้แน่ชัด แต่จากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือชี้ให้เห็นว่าการป่วยเป็นออทิสติกนั้นไม่ได้มาจากสาเหตุเพียงสาเหตุเดียว
ปัจจัยความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดออทิสติกมีดังนี้:
- มีสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นออทิสติก
- การผ่าเหล่าทางพันธุกรรม
- การแตกตัวของโครโมโซม X และความผิดปกติด้านพันธุกรรมอื่นๆ
- พ่อแม่อยู่ในวัยชราระหว่างให้กำเนิดบุตร
- น้ำหนักแรกเกิดต่อ
- ระบบเมแทบอลิซึมขาดสมดุล
- สัมผัสกับโลหะหนักหรือสารพิษอื่นๆ
- เคยติดเชื้อไวรัส
- ผลข้างเคียงจากการได้รับ กรดวาลโปรเอท (Depakene) หรือทาลิโดไมด์ (Thalomid)
อาการ ออทิสติก
อาการของผู้ป่วยออทิสติกหรือเด็กออทิสติกที่ชัดเจนนั้นเราจะเห็นได้ในเด็กวัย 12 – 24 เดือน อย่างไรก็ตามความผิดปกติสามารถปรากฏได้ก่อนหรือหลังจากนั้น
อาการเริ่มต้นของออทิสติกอาจจะประกอบไปด้วย พัฒนาการช้าด้านการพูด หรือ พัฒนาการทางสังคมที่ช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน
หมวดหมู่ความผิดปกติของผู้ป่วยออทิสติก
การวินิจฉัยแบบ DSM-5 แบ่งลักษณะเด็กออทิสติกเป็น 2 หมวดหมู่ใหญ่ๆ ได้แก่ ความบกพร่องด้านการสื่อสารและสังคม, พฤติกรรมที่ซ้ำซาก
ความบกพร่องด้านการสื่อสารและสังคม ประกอบไปด้วย :
- ปัญหาด้านการพูดและการสื่อสาร เช่น การแสดงอารมณ์ การแสดงความสนใจ หรือการตอบโต้ระหว่างการสนทนา
- ปัญหาในการสื่อสารโดยใช้อวัจนะภาษา เช่น สายตา หรือ ภาษากาย
- พัฒนาการในการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นนั้นต่ำหรือไม่มีเลย
พฤติกรรมที่ซ้ำซากประกอบไปด้วย :
- เคลื่อนไหวซ้ำๆ สภาวะอารมณ์เดิมซ้ำๆ รวมถึงการพูดประโยคเดิมซ้ำไปมา
- จดจ่อกับกิจวัตรหรือพฤติกรรมเดิมๆ
- ประสาทสัมผัสต่อสิ่งรอบข้างอาจมากหรือน้อยเกินไป เช่น การมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเสียงที่จำเพาะเจาะจงan
- มีความสนใจเฉพาะสิ่ง และมีความเพ้อฝัน
ผู้ป่วยแต่ละรายจะได้รับการประเมินจากหัวข้อด้านบนและถูกบันทึกข้อมูลในประวัติผู้ป่วย ในการจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยออทิสติกจะต้องมีความผิดปกติในด้านการสื่อสารตามหัวข้อด้านบนทั้งหมด และมีความผิดปกติในด้านพฤติกรรมซ้ำซากอย่างน้อย 2 รายการ
การรักษา ออทิสติก
สำหรับผู้ป่วยออทิสติกนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ยังมีวิธีบำบัดและเยียวยาที่น่าสนใจอยู่หลายวิธีด้วยกันสำหรับใช้ดูแลเด็กออทิสติก
กิจกรรมบำบัดออทิสติกโดยทั่วไป :
- การบำบัดพฤติกรรมร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม
- การบำบัดด้วยการเล่น
- การบำบัดกิจวัตรประจำวัน
- การบำบัดทางกายภาพ
- การบำบัดการพูดและสนทนา
เทคนิคการนวด การใช้ผ้าห่มถ่วงน้ำหนักสำหรับผู้ป่วยออทิสติก การแต่งกาย และการนั่งสมาธิ มักจะประกอบไปด้วยกิจกรรมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามผลของการบำบัดนั้นสามารถแสดงออกได้หลากหลายซึ่งอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
วิธีการบำบัดแบบทางเลือกสำหรับออทิสติก
การบำบัดทางเลือกสำหรับผู้ป่วยออทิสติกมีดังนี้:
- การให้วิตามินในปริมาณสูง
- การบำบัดคีเลทชั่นที่ช่วยชำระล้างโลหะหนักออกจากร่างกาย
- การบำบัดแบบไฮเปอร์บาริค ออกซิเจน (Hyperbaric oxygen therapy)
- การใช้เมลาโทนินช่วยในการนอนหลับ
ขอควรระวังในการใช้การบำบัดทางเลือกนั่นควรอยู่ภายในการควบคุมหรือแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับเด็กได้