โคม่า (Coma) คือภาวะที่ผู้ป่วยหมดสติเป็นเวลานาน เนื่องจากสมองส่วนใดส่วนหนึ่งได้รับความเสียหาย ซึ่งความเสียหายนี้ส่งผลให้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะหมดสติ ไม่สามารถตื่นตัว เคลื่อนไหว และไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกได้ เช่นความเจ็บปวด เสียงและแสง รวมไปถึงการสัมผัส คำว่าโคม่า มีรากมาจากภาษากรีก “Koma” ที่แปลว่า การหลับลึก นั่นเอง
อาการโคม่าสามารถเกิดจากสาเหตุหลายประการ ตั้งแต่การบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยไปจนถึงโรคหลอดเลือดสมอง เนื้องอกสมอง และนอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยาเสพติดสามารถส่งผลให้เกิดอาการโคม่าได้เช่นกัน
ผู้ป่วยอยู่ในอาการโคม่านั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวและรู้สึกตัวได้ ผู้ป่วยจะหยุดการคิด และไม่สามารถพูดหรือตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมได้ แต่ภาวะทางร่างกายยังคงสามารถสั้งการทำงานที่สำคัญได่ เช่นการหายใจและการไหลเวียนของเลือด
ภาวะโคม่าที่โดยส่วนใหญ่นั้นไม่เกิน 4 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้มีในบางกรณีที่ผู้ป่วยจะโคม่าในระยะยาวได้ ทั้งนี้ระยะเวลาในการเกิดอาการโคม่าขึ้นอยู่กับสาเหตุ และระดับความเสียหายต่อสมอง การเอาใจใส่ของคนใกล้ชิด ด้วยการพูดคุย หรือสัมผัสบ่อยๆ อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกตัวได้เร็วขึ้น และควรจะพลิกตัวผู้ป่วยบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงแผลกดทับ
สาเหตุ โคม่า
โคม่ามีสาเหตุมาจากการที่สมองถูกทำลาย โดยเป็นการทำลายที่จำเพาะเจาะจงในสมองใหญ่ทั้งซีกซ้ายและขวา ในบริเวณของเยื่อหุ้มสมอง และระบบประสาท ซึ่งสมองในส่วนนี้ทำหน้าที่ในการรับรู้ และการตื่นตัว การถูกทำลายสามารถเป็นเหตุมาจากปัจจัยสำคัญได้หลายประการ เช่น ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน การขาดออกซิเจน การมีเลือดออกหรือเกิดแรงดันในสมอง การติดเชื้อ ระบบเมแทบอลิซึมมีปัญหา ภาวะเป็นพิษ ตัวอย่างได้แก่
- การบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือสมอง เช่น เกิดจากอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนสมองอย่างรุนแรง หรือการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง
- โรคหลอดเลือดสมอง
- เนื้องอกในสมอง
- การขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองเป็นเวลานาน
- การใช้ยาหรือแอลกอฮอล์เกินขนาด
- ได้รับสารพิษมากเกินไปจนตับหรือไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
- การสะสมของสารพิษในร่างกาย เช่น แอมโมเนีย ยูเรีย หรือคาร์บอนไดออกไซด์
- ได้รับสารพิษจากโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว
- การติดเชื้อ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือโรคไข้สมองอักเสบ
- เกิดอาการชักต่อเนื่องกัน
อาการ โคม่า
อาการโคม่าเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์และต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที สัญญาณของอาการโคม่า มีดังนี้
- ผู้ป่วยไม่ลืมตา
- ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าใด ๆ
- ไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ
- ร่างกายไม่ตอบสองต่อความเจ็บปวด
- รูม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสงค่ะ
การรักษา โคม่า
สิ่งสำคัญอันดับแรกของการรักษา คือ การรักษาชีวิตและการทำงานของสมอง แพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะทันทีในกรณีที่มีการติดเชื้อในสมอง และการรักษาอื่น ๆ ตามสาเหตุของอาการโคม่า เช่น ในกรณีของการใช้ยาเกินขนาด อาจต้องผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมในสมอง
เมื่อผู้ป่วยโคม่ามีอาการทรงตัวแพทย์จะดูแลในส่วนของการป้องกันการติดเชื้อ แผลกดทับ และการหดตัวของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้แพทย์จะให้สารอาหารที่ผู้ป่วยต้องการอย่างเพียงพอในช่วงที่อยู่ในภาวะโคม่า