รังสีรักษา (Radiation Therapy) คือ การรักษาโรคมะเร็ง (Malignant Tumor) และรอยโรคที่ไม่ใช่โรคมะเร็ง (Benign tumor) ด้วยคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าหรือ อนุภาคซึ่งเป็นรังสี โดยอาศัยคุณลักษณะของรังสีแต่ละชนิดในการทำลายเซลล์
วิธีการรักษาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. การใช้รังสีรักษาระยะไกล (Teletherapy) หมายถึง การรักษาที่มีต้นกำเนิดรังสีห่างจากบริเวณที่จะรักษา เช่น เครื่องฉายรังสีโคบอลต์ 60 และเครื่องเร่งอนุภาค เป็นต้น
2. การใช้รังสีรักษาระยะใกล้ (Brachytherapy) หมายถึง การรักษาที่มีต้นกำเนิดรังสีอยู่ชิดหรือภายในบริเวณที่จะรักษา
การใช้รังสีเพื่อรักษาโรคมะเร็งได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1899แต่ได้รับการศึกษาอย่างจริงจังทั้งในด้าน radiation physics, radiobiology, computer treatment planning ในช่วง20ปีที่ผ่านมา โดยการให้รังสี มีหลักที่สำคัญ คือ การให้รังสีแก่ก้อนมะเร็งและ พยายาม ให้มี damage ต่อ normal tissue ให้น้อยที่สุด การให้รังสีนอกจากเพื่อทำให้ หายขาดจากโรค แล้วยังสามารถใช้ใน การบรรเทาอาการจาก โรคในกรณีที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ในปัจจุบันมะเร็งเป็นสาเหตุในการเสียชีวิต ของคนไทยในอันดับต้นๆ รังสีรักษา เป็นวิธีการหนึ่งในการรักษามะเร็ง ประมาณ 60% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งมักจะได้รับ การรักษา ด้วยรังสี แต่มีผู้เข้าใจในวิชานี้ค่อน ข้างน้อย
1. การฉายรังสีแบบ 2 มิติ (Conventional Radiotherapy) ในปัจจุบันมีการวางแผนการรักษาด้วยรังสี 2 มิติ โดยทั่วไป ส่วนใหญ่ ใช้การกำหนดขอบเขตการฉายรังสีจากกายวิภาคที่สามารถเห็นจากภาพเอ็กซเรย์หรือการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ตำแหน่งของกระดูกเป็นตัวกำหนดขอบเขตการฉายรังสี และใช้เครื่อง Simulator (เครื่องเอ็กซเรย์แบบ Fluoroscopy) ถ่ายภาพเอ็กซเรย์แล้วขีดเส้นขอบเขตการรักษา ต่อมามีการใช้เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ถ่ายภาพ แต่การกำหนดขอบเขตการฉายรังสียังคงเป็นระนาบเดียวเท่านั้น ซึ่งลำรังสีของการ
ฉายรังสีแบบ 2 มิติ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือวงกลม ทำให้เนื้อเยื่อปกติในบริเวณใกล้เคียงกับรอยโรคได้รับรังสีไปด้วย การฉายรังสีแบบ 2 มิติ จึงมีข้อจำกัดในการกำหนดทิศทางการฉายรังสีและจำนวนลำรังสีได้ไม่มาก
ชนิดของรังสีที่ใช้รักษาโรค แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักคือ