โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ

โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ (IgA Nephropathy) คือ ผลจากการสะสมของแอนติบอดี้ชนิดไอจีเอ (IgA) ในหน่วยไต ทั้งนี้ การพัฒนาโรคของไตอักเสบชนิดไอจีเออาจใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ปี โดยจะไม่แสดงอาการใด ๆ

IgA nephrology เป็นคำที่สะกดผิดปกติสำหรับชื่อของโรคไต IgA nephropathy โรคไตเป็นคำที่ใช้ในการอธิบายพื้นที่ของยาที่เกี่ยวข้องกับไตในขณะที่โรคไตหมายถึงโรคที่มีผลต่อไต เนื่องจากคำว่าโรคไตของ IgA นั้นคล้ายกับโรคไตของ IgA อย่างใกล้ชิดจึงไม่เป็นที่รู้จักสำหรับผู้ที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคไตจาก IgA กับวลีประเภทที่ไม่ตั้งใจเช่นการรักษาโรคไตทาง IgA และโรคไต IgA ในเครื่องมือค้นหา IgA nephropathy ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม synpharyngitic glomerulonephritis หรือโรคของเบอร์เกอร์ เงื่อนไขเกี่ยวข้องกับสารที่เรียกว่าอิมมูโนโกลบูลินเอหรือ IgA ที่สะสมอยู่ภายในส่วนของไตที่เรียกว่ากลูเมอลีซึ่งเป็นกระบวนการที่สามารถนำไปสู่ความเสียหายที่เพิ่มขึ้นและไตวายในที่สุด

สาเหตุ โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ

โรคไตอักเสบจากภูมิคุ้มกัน IgA ทำลายตนเอง (IgA Nephropathy) ว่ามันเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ดีๆก็มีภูมิคุ้มกันชนิด IgA เข้าไปทำลายเนื้อไตจนเกิดการอักเสบและไตเสียการทำงาน มักเป็นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง มักเกิดหลังการติดเชื้อทางเดินลมหายใจส่วนบนเช่นทอนซิลอักเสบ เมื่อเป็นแล้วมักมีอาการมีเลือดออกและโปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ บางคนก็มีอาการกระเพาะลำไส้อักเสบร่วมด้วย

โรค IgA Nephropathy เป็นโรคที่ส่วนใหญ่เป็นเองหายเอง และเป็นสาเหตุของไตวายได้ร้อยละ 15 ถึง 20 ภายใน 10 ปีข้างหน้า

อาการ โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ

อาการของโรคไตอักเสบจาก IgA อาจแตกต่างกันไปและบางคนอาจไม่มีอาการที่เห็นได้ชัดเจน แต่อาจพบว่ามีเลือดเป็นจำนวนมากในปัสสาวะ เลือดนี้อาจถูกค้นพบโดยบังเอิญในระหว่างการตรวจปัสสาวะเป็นประจำ ในกรณีอื่น ๆ เลือดสามารถมองเห็นได้ง่ายในปัสสาวะและมักจะปรากฏในเวลาเดียวกันกับการติดเชื้อทางเดินหายใจ

การรักษา โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ

การรักษาโรคไต IgA มีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอการลุกลามของโรคไตอักเสบจาก IgA และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเช่นความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อไตและยังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย ยาสามารถใช้ในการควบคุมความดันโลหิตและรักษาไว้ภายในขอบเขตปกติ

  • การรักษาแบบรุนแรงเช่นใช้ยาสะเตียรอยด์จะทำก็ต่อเมื่อโปรตีนรั่วในปัสสาวะระดับมากพอควร (เกิน 1.5-3.5 กรัมต่อวัน) (สังเกตัวสะเตียรอย์ ขนาดยาจะเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆตามระยะการเสื่อมของไต)
  • การรักษาโรคนี้คือต้องรักษาความดันสูงอย่างขมีขมัน และยาที่ใช้ก็ควรเป็นยาในกลุ่ม ACEI หรือกลุ่ม ARB เท่านั้นจึงจะมีผลลดการรั่วของโปรตีนได้ดี

[Total: 36 Average: 4.9]