โรคไตอักเสบ คือ ภาวะการอักเสบของกลุ่มเลือดฝอยไต ฝอยของไตนี้จะคอยทำหน้าที่กรองของเหลวส่วนเกินออกมา ขับของเสียในกระแสเลือดให้กลายมาเป็นปัสสาวะ ถ้าหากว่า กลุ่มเลือดฝอยเกิดอาการอักเสบ จะส่งผลให้ระบบปัสสาวะผิดปกติ อาจจะเกิดอาการปวดบริเวณไตข้างที่มีอาการ หรืออาจเป็นที่ไตทั้งสองข้าง เมื่อคุณเป็นโรคไตอักเสบถ้าหากไม่รีบรักษา อาจะก่อให้เกิดไตวายได้
สาเหตุ โรคไตอักเสบ
บางครั้งเราก็ไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้เสี่ยงไตอักเสบนะแต่อาจมาจากกรรมพันธุ์ของเรา เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตร็ปโตค็อกคัส” เนื่องจากอาการเจ็บคอ เกิดจากการติดเชื้อทางผิวหนัง ติดจากเชื้อไวรัส ที่ก่อให้เกิดเอชไอวี และมีการติดเชื้อจากการอักเสบของเยื่อบุหัวใจด้วย ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกก็คือ ผลข้างเคียงที่มาจากโรคประจำตัว อย่าง เช่น โรคที่แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง โรคหลอดเลือดอักเสบ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคมะเร็งปอด เป็นต้น
อาการ โรคไตอักเสบ
- ปัสสาวะมีสีออกชมพู หรือสีโคล่า เพราะมีการปนเปื้อนของเซลล์เม็ดเลือดแดง
- ปัสสาวะมีฟอง เนื่องจากมีโปรตีนที่เป็นส่วนเกินปะปนออกมากับปัสสาวะ
- มีอาการบวมน้ำที่อวัยวะบางส่วน เช่น มือ เท้า หรือท้อง
- มีความดันโลหิตสูง
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดข้อ มีผื่นคัน หรือมีปัญหาที่ทางเดินระบบหายใจ
- อาจมีอาการปวดบริเวณไต ซึ่งอยู่บริเวณเอวค่อนไปด้านหลัง อาจจะปวดข้างใดข้างหนึ่ง หรือปวดทั้งสองข้างก็ได้
การป้องกัน โรคไตอักเสบ
- ควรงดการสูบบุหรี่
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการกำเริบของโรคเบาหวาน
- ใช้วิธีการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่น ลดความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวี และไวรัสตับอักเสบได้
- ทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกายทุกวัน เพื่อสร้างภูมิต้านทานโรคของตัวเองให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ควรควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติอยู่เสมอ
การรักษา โรคไตอักเสบ
เนื่องจากสาเหตุของโรคมีอยู่มากมาย หากแพทย์สามารถระบุถึงสาเหตุของโรคได้อย่างชัดเจน การรักษาจะทำโดยมุ่งเน้นที่การรักษาตั้งแต่ต้นเหตุ โดยให้ยารักษาที่อาการต้นเหตุ เช่น ยาลดความดันโลหิตหากความดันโลหิตสูง ยาขับปัสสาวะที่ช่วยรักษาอาการบวมน้ำซึ่งเกิดจากการสะสมของของเหลวในร่างกาย นอกจากนี้ยังอาจพิจารณาให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือปอดอักเสบ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานโรค และลดภาวะอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ในอนาคต