ยอดผู้ป่วยยืนยันทั่วโลกอยู่ที่ 23,214 ราย (เพิ่มขึ้น 106 ราย)
ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิงมีรายงานเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 5 ราย
โดยมีรายงานเพิ่มใน 2 ประเทศ คือ
– อินเดีย รายงานผู้ป่วยชาย อายุ 22 ปีในรัฐเกรละเสียชีวิต โดยผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากอาการโรคไข้สมองอักเสบ ก่อนที่จะตรวจพบโรคฝีดาษลิงเพิ่มเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติเดินทางกลับมาจาก UAE
– กาน่า รายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นจนท.ในกองทัพกาน่า หลังมีอาการไข้ มีผื่นและตุ่มหนองที่ผิวหนัง ซึ่งผลตรวจยืนยันเป็นโรคฝีดาษลิงเมื่อ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
รายงานพบ ฝีดาษลิง ครั้งแรก
- มอนเตเนโกร พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายแรกในประเทศ
- ซูดาน พบผู้ป่วยรายแรกของประเทศ วัยรุ่น อายุ 16 ปี
ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดของผู้ป่วยทั้งในมอนเตเนโกร และซูดาน
– ในสหรัฐฯ ความต้องการฉีดวัคซีนในชุมชนของกลุ่ม LGBTQ ยังคงสูง โดยเรียกร้องให้รัฐ จัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนเพื่อลดการระบาดหรือลดความเสี่ยงของโรค
– ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนระบุว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ และจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากมีการลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ต่อโรค
– ซึ่งการติดเชื้อยังคงเป็นการสัมผัสใกล้ชิดในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
– และการสวมถุงยางไม่สามารถป้องกันการสัมผัสที่เกิดขึ้นจากผิวหนังในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้
ดังนั้นการสัมผัสผื่น ตุ่มหนองในบริเวณอื่น ก็เสี่ยงต่อการติดโรคได้เช่นกัน โดยขณะนี้ ความต้องการวัคซีนสำหรับป้องกันโรคฝีดาษลิงมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความสามารถในการผลิตนั้น ไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างมาก ทำให้การฉีดวัคซีนจึงทำได้ไม่มากนัก