อาการ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

เมื่อเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบทำให้มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ  (Pericardial  effusion)  หรือทำให้เยื่อหุ้มหัวใจบีบรัดจากการที่เกิดผังผืดหนาจากการอักเสบ  เมื่อมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจเพียง  150-200  ซีซี.  ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า  Cardiac  tamponade  คือ  อาการที่พบบ่อยคือ อาการเจ็บหน้าอก (Chest pain)  ผู้ป่วยจะเจ็บบริเวณใต้กระดูกหน้าอกและบริเวณหัวใจ  อาจมีปวดร้าวไปไหล่  คอ สะบักซ้าย หรือมีออการออกร้อนใต้ลิ้นปี่  มีความเจ็บปวดรุนแรง  ลักษณะปวดแหลม  ปวดมากเมื่อหายใจลึก ๆ การไอ  การเคลื่อนไหวลำตัว  หรือนอนราบ  อาการปวดจะหายได้เมื่อนั่งและโน้มตัวไปข้างหน้า   อาการอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุ  เช่น  หายใจลำบาก (จากปริมาณเลือกออกจากหัวใจลดลงและออกซิเจนในเลือดลดลง)  ไข้ต่ำ ๆ และไอ   อาการสำคัญที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค คือ  การฟังได้ Pericardial friction rub  เนื่องจากการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจทำให้มีสารน้ำเพิ่มขึ้นในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ  เรียกว่า Pericardial effusion ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย ปริมาณน้ำอาจพบตั้งแต่ 50 cc ถึง 3,000  cc   เมื่อมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนกดการทำงานของหัวใจเรียกว่า Cardiac tamponade  ทำให้หัวใจบีบตัวไม่มีประสิทธิภาพ ในระยะแรกหัวใจจะมีการปรับตัวชดเชยโดยการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ  เมื่อการปรับตัวล้มเหลว   ปริมาณเลือดออกจากหัวใจลดลง  ผู้ป่วยจะมีการกระสับกระส่าย  สับสน  หัวใจเต้นเร็ว  หายใจเร็ว  หลอดเลือดดำที่คอโป่งตึง     การรักษาที่เร่งด่วนสำหรับภาวะ   Cardiac tamponade คือการเจาะเอาของเหลว (อาจเป็นน้ำ หนอง หรือเลือดแล้วแต่สาเหตุ)  ออกจากเยื่อหุ้มหัวใจ  เรียกว่า Pericardiocentesis 

[Total: 0 Average: 0]