5 พฤติกรรมทำภูมิคุ้มกันตก

การมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการมีสุขภาพที่แข็งแรงนั้น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการทำลายระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ 5 พฤติกรรมนี้ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคต่างๆสูงขึ้น และถ้าป่วยก็จะใช้เวลานานในการฟื้นฟูร่างกาย อาหารไขมันสูง ไขมันสามารถขัดขวางการทำงานของเม็ดเลือดขาว หากทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ จะทำให้เสียสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ที่จะช่วยเสริมการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การออกกำลังกายไม่พอ การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ดีขึ้น เพราะการออกกำลังกายทำให้เลือดหมุนเวียนในร่างกายดีขึ้น ทานผักและผลไม้น้อยเกินไป ผักและผลไม้ช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือกขาวที่ต้องใช้ต่อสู้กับการติดเชื้อ อาหารประเภทผักสด ผลไม้สด ถั่ว และธัญพืช มีธาตุอาหารหลายอย่างที่ทำให้สุขภาพดี สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นิโคตินบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า จากการเคี้ยวยาสูบ หรือการดื่มมากเกินไปเพียงครั้งเดียว ทำให้ความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียต่ำลง ตลอดจนทำลายความสามารถของร่างกายในการซ่อมแซมตัวเอง

5 วิธีดูแลสุขภาพให้ดีได้ด้วยตัวเอง

ในปีนี้หลายคนตั้งเป้าหมายการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การเรื่องงาน เป้าหมายการใช้ชีวิต รวมถึงการมีสุขภาพดีด้วย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันคนหันมาสนใจ และใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ตัวเองนอนหลับสบาย มีสุขภาพแข็งแรง หรือการหลุดพ้นจากความเครียดเมื่อเราเรียนรู้ที่จะดูแลสุขภาพกายและใจตัวเองให้ดีแล้ว เราก็จะสามารถดูแลตัวเองและจัดการกับความเครียดและภาระหน้าที่ต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม วันนี้GedGoodLife อยากชวนเพื่อนๆมาบาลานซ์พฤติกรรมด้วย7 วิธีดูแลสุขภาพ ที่สามารถเริ่มได้จากตัวเอง มาดูแลตัวเองไปพร้อมๆกันนะคะ 1. เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาหารกับสุขภาพเป็นของคู่กัน การที่เราจะมีสุขภาพดีได้นั้น การกินถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการดูแลตัวเอง เป็นการดูแลจากภายในสู่ภายนอก เราจึงควรต้องกินอาหารให้พอดีและหลากหลายในแต่ละวัน เลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ โดยเน้นไปที่โปรตีนและคาร์โบไฮเดตรที่มีประโยชน์เป็นหลัก เสริมผัก ผลไม้ที่ให้เกลือแร่และวิตามิน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกไขมันและอาหารที่มีคลอเรสเตอรอลสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถกินอาหารที่คุณชอบแต่อาจจะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพนัก แถมยังรู้สึกผิดทุกครั้งที่กินเข้าไปได้ แน่นอนว่าคุณสามารถกินเค้กชิ้นเล็กๆ ชานมไข่มุก หรือเมนูประเภทปิ้งย่างได้เช่นกัน แต่ต้องระวังไม่ให้เผลอกินในปริมาณที่มากเกินไป เพราะถ้าหากคุณกินในปริมาณที่พอดีก็จะเป็นผลดีต่อร่างกายและจิตใจแถมยังช่วยเยียวยาอารมณ์ให้ดีขึ้นได้โดยไม่เสียสุขภาพด้วย 2. ออกกำลังกาย เมื่อเลือกทานอาหารที่ดีแล้วสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือการออกกำลังกาย ปัจจุบันการออกกำลังกายมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความชอบ ไลฟสไตล์ และสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายชนิดไหน ก็มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดีมากขึ้นทั้งนั้น การออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างอย่างหนัก แต่การออกกำลังกายที่ดีควรทำเป็นประจำ สม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที และควรออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 2-3LanjutkanLanjutkan membaca “5 วิธีดูแลสุขภาพให้ดีได้ด้วยตัวเอง”

5 วิธีเดตสุขภาพดี ทั้งยังสนุก และช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้มากขึ้นแน่นอน

คู่รักคู่ไหนกำลังมองหากิจกรรมสำหรับวันวาเลนไทน์นี้กันอยู่บ้างคะ วันนี้ Healthiful จะมาแนะนำ 5 วิธีเดตสุขภาพดี ทั้งยังสนุก และช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้มากขึ้นแน่นอน จะมีวิธีเดตแบบไหนบ้างมาดูกันเลยค่า เต้นรำ เป็นอีกกิจกรรมที่สนุกและยังได้สุขภาพอีกด้วย คู่รักคนไหนที่ชอบกิจกรรมแอคทีฟ การเต้นหรือกิจกรรมเข้าจังหวะแบบนี้ จะช่วยให้เราได้ขยับร่างกายทุกส่วน และเผาผลาญแคลอรีได้ดี วาเลนไทน์นี้ลองมาชวนคนรักอยู่บ้าน เปิดเพลงเต้นรำ ก็โรแมนติกดีเหมือนกันนะคะ เข้าครัวทำอาหารด้วยกัน คู่รักสายนักชิม การเข้าครัวทำอาหารด้วยกันนั้นเหมาะที่สุดในยุคโควิดแบบนี้เลยล่ะค่ะ ทั้งได้ทำกิจกรรมด้วยกัน และยังไม่ต้องออกไปเสี่ยงนอกบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ยังกำหนดเมนูสุขภาพเอง ด้วยการควงออกไปเดินซื้อวัตถุดิบด้วยกันก็ยังได้ โดยถ้าอยากมองหาอาหารเพื่อสุภาพ สามารถแวะมาที่ Healthiful ได้เลยนะคะ เรามีวัตถุดิบสำหรับเมนูเพื่อสุขภาพให้เลือกซื้อมากมาย รับรองว่ากิจกรรมนี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้ แถมยังอิ่มท้องและสุภาพดีอีกด้วยค่า ปั่นจักรยาน สำหรับคู่รักนักปั่น หรืออยากพากันไปเดตในชิล ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ การปั่นจักรยานด้วยกันก็ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างความประทับใจได้ และยังสนุกอีกด้วยค่ะ โดยการปั่นจักรยานช่วยให้เราได้บริหารร่างกายทุกส่วน ซึ่งการปั่นจักรยานเพียงวันละ 1 ชั่วโมงก็สามารถเผาผลาญแคลอรีไปได้มากถึง 600 แคลอรีเลยทีเดียว ผลัดกันนวด ใครที่ชอบการนวดอยู่แล้ว กิจกรรมนี้ต้องห้ามพลาดเลย โดยสามารถสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยกลิ่นอโรมา และจุดเทียนเพิ่มแสงไฟสลัวอีกนิด เปิดเพลงคลอเบา ๆ ไปด้วยอีกหน่อย การนวดธรรมดาก็จะเปลี่ยนไปทันทีLanjutkanLanjutkan membaca “5 วิธีเดตสุขภาพดี ทั้งยังสนุก และช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้มากขึ้นแน่นอน”

3 แอพยุคดิจิทัลสุดล้ำ สำหรับผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกน้อยวัยเตาะแตะ

เด็กทารกเป็นวัยที่ค่อนข้างเปราะบางและต้องต้องการการดูแลเอาใจใส่แบบไม่คลาดสายตา สตาร์ทอัพหลายรายเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ พวกเขาจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองยุคดิจิทัลให้สามารถเลี้ยงลูกน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม ตาม InnoHub มาสำรวจ 3 เทคโนโลยีเพื่อการดูแลเด็ก ๆ วัยเบบี๋ สำหรับเป็นไอเดียทางธุรกิจให้คุณนำไปต่อยอดสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ในอนาคต Juno เป็นแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากบริษัทสัญชาติอังกฤษ โดยเน้นมอบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ในด้านกุมารเวชศาสตร์โดยเฉพาะ ผู้ปกครองสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี ๆ ถึง 2 สัปดาห์ และหากพึงพอใจ ต้องการใช้งานต่อ ก็จะมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 450 บาทต่อเดือน จุดเด่นของแอปพลิเคชันนี้คือคุณพ่อคุณแม่สามารถขอคำปรึกษาจากกุมารแพทย์ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานให้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษอยู่แล้ว จึงมั่นใจได้ว่าลูก ๆ อยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ไปจนถึงการเลี้ยงดูเมื่อทารกน้อยเริ่มเติบโตขึ้น ได้ตามเวลาที่ตัวเองสะดวกอย่างง่ายดายจากทุกที่ แค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ไม่ต้องต่อคิวนาน ๆ ที่โรงพยาบาลอีกต่อไป อ้างอิง: https://hellojuno.co.uk/ Owlet Baby Care บริษัทในอเมริกา คิดค้นและพัฒนานวัตกรรม “ถุงเท้าอัจฉริยะ” หรือ Smart Socks ซึ่งเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือLanjutkanLanjutkan membaca “3 แอพยุคดิจิทัลสุดล้ำ สำหรับผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกน้อยวัยเตาะแตะ”

สิวที่หัวนม: คืออะไร อันตรายหรือไม่ เสี่ยงมะเร็งเต้านมหรือเปล่า

 สำหรับตุ่มที่ขึ้นบริเวณลานนมนั้น เป็นเพียงตุ่มไขมันชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Montgomery gland ซึ่งจะมีประมาณ 4-28 ตุ่ม คอยสร้างสารไขมันมาเคลือบผิวหนังที่ลานนม อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เมื่อร่างกายได้รับฮอร์โมนมากขึ้น เช่น ในช่วงที่คุณผู้หญิงมีประจำเดือน หรือกำลังกินยาคุมกำเนิด ทั้งนี้ หากมีอาการปวด บวม เจ็บบริเวณดังกล่าว แสดงว่าตุ่มไขมันเกิดการอักเสบ สามารถรักษาได้เหมือนการรักษาผิวหนังอักเสบทั่วไป แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นมะเร็ง อาการคันบริเวณหัวนมหรือลานนม ส่วนใหญ่มักเป็นปัญหาเรื่องผื่นแพ้สัมผัส โดยทั่วไปอาจมีสาเหตุมาจากการใส่ชุดชั้นในรัดแน่นเกิน  การแพ้สารเคมีในชุดชั้นใน ความอับชื้น ที่ส่งผลให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าขึ้นบริเวณหัวนม นอกจากนี้ในช่วงอากาศแห้งก็จะทำให้ผิวแห้ง เป็นขุย หลุดลอกได้ง่ายเช่นกัน วิธีป้องกันรักษาเบื้องต้นก็คือ ควรรักษาความสะอาดบริเวณนั้น อย่าปล่อยให้ความอับชื้นเกิดขึ้น ที่สำคัญพยายามอย่าเกาเพราะจะทำให้อาการลุกลามมากขึ้น และอาจใช้ยาแก้คันหรือยาแก้แพ้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม หากเป็นตุ่มบวมแดงแล้วทายามานานก็ยังไม่หาย อาจต้องสงสัยว่าเป็น “โรคมะเร็งที่หัวนม” (Paget’s disease of the breast) ได้เหมือนกัน ซึ่งโรคมะเร็งชนิดนี้ถือเป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิดหนึ่ง ที่ตรวจพบได้ยาก พบได้ไม่บ่อย และส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีใครคิดกันว่าจะเป็นสาเหตุของมะเร็งได้ อาการโรคมะเร็งที่หัวนมจะเริ่มเกิดขึ้นบริเวณภายนอกที่หัวนมและบริเวณรอบ ๆ ลานนม แรก ๆ จะดูเหมือนเป็นผื่นหรือเป็นสิวขึ้นธรรมดา แต่นาน ๆ ไปตุ่มที่คล้ายสิวจะเริ่มกลายเป็นแผลLanjutkanLanjutkan membaca “สิวที่หัวนม: คืออะไร อันตรายหรือไม่ เสี่ยงมะเร็งเต้านมหรือเปล่า”

COVID-19: Chonburi College of Nursing bekerja sama dengan NHSO District 6 untuk mengorganisir mahasiswa keperawatan tahun ke-4 untuk merawat pasien covid yang menunggu isolasi di rumah.

Kolese Keperawatan Boromarajonani, Chonburi, bekerja sama dengan NHSO Distrik 6, Rayong, mengorganisir 154 mahasiswa keperawatan tahun ke-4 untuk memberikan konseling, pertanyaan, penilaian, pemantauan gejala dan skrining bagi pecandu. COVID-19 Sambil menunggu unit perawatan isolasi rumah untuk mengintegrasikan dengan mata pelajaran semester ini, NHSO District 6 direktur menunjukkan bahwa fase berikutnya mungkin akan dipindahkan ke bantuan perawatan untuk diabetes pasien. TekananLanjutkanLanjutkan membaca “COVID-19: Chonburi College of Nursing bekerja sama dengan NHSO District 6 untuk mengorganisir mahasiswa keperawatan tahun ke-4 untuk merawat pasien covid yang menunggu isolasi di rumah.”

Dokter siap: buka fungsionalitas untuk membantu melacak “5 kelompok yang menerima vaksin covid 19”

Yuk simak detail Line Official Account “Doctor Ready”, bagaimana cara menggunakannya? Kelompok pertama tenaga medis dan kesehatan masyarakat Awalnya masuk untuk pertama kalinya 12 Februari sebelum injeksi yang sebenarnya 14 Februari 64 Dari kasus Kementerian Kesehatan Masyarakat (Kemenkes) mengumumkan untuk bergerak maju dalam vaksinasi terhadap COVID-19 Lot pertama diberikan kepada kelompok pertama tenaga berisiko tinggi yaitu tenaga medisLanjutkanLanjutkan membaca “Dokter siap: buka fungsionalitas untuk membantu melacak “5 kelompok yang menerima vaksin covid 19””

บุหรี่ไฟฟ้า: ปกป้องเด็กจากภัย

คณะทำงานวิชาการ ของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ผศ.ดร.วรรณภา นาราเวช อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการทบทวนงานวิจัยผลกระทบของนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า พบว่าการได้รับนิโคตินจากบุหรี่รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนมีผลต่อทั้งร่างกาย พัฒนาการด้านสมอง ที่มีผลต่อจิตใจ อารมณ์ และสังคม โดยนิโคตินทำให้เกิดการเสพติดและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสมองที่กำลังพัฒนาของเด็ก โดยสารดังกล่าวกระตุ้นสมองให้พร้อมที่จะใช้สิ่งเสพติดอื่นๆ ตามมา นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความผิดปกติของอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ทำได้น้อยลง มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ขาดสมาธิและสมรรถนะในการเรียนรู้ หากมีการริเริ่มใช้นิโคตินตั้งแต่ในวัยเด็ก การเสพติดจะเกิดได้สูงและเร็วกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้พบว่าระหว่างบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่ทั่วไปในปริมาณนิโคตินเท่ากัน ระดับของนิโคตินในกระแสเลือดผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีระดับสูงกว่าผู้ที่สูบบุหรี่ทั่วไป นอกจากนิโคตินแล้วในบุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารเคมีอื่นๆ เช่น ไดเอธิลีนไกลคอล, ตะกั่ว, แมงกานีส, สังกะสี, ปรอท, สารหนู, แคดเมี่ยม ในปริมาณที่ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระบบทางเดินหายใจ ผนังและถุงลมโป่งพอง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในปอดเป็นเซลล์มะเร็ง หลอดเลือดตีบ ผนังหลอดเลือดแข็งและเปราะง่าย มีผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น นอกจากนี้ยังไม่พบการศึกษาวิจัยทางคลินิกที่เป็นระบบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เปรียบเทียบกลุ่มศึกษาและกลุ่มควบคุม เพื่อใช้เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ในการใช้เป็นทางเลือกใหม่ของผู้สูบบุหรี่ในการลดอันตรายหรือเลิกสูบบุหรี่ทั่วไป อย่างที่มีการกล่าวอ้างผิดๆ ผศ.ดร.วรรณภา กล่าวว่า ดังนั้น ครอบครัว ชุมชน สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องLanjutkanLanjutkan membaca “บุหรี่ไฟฟ้า: ปกป้องเด็กจากภัย”

COVID-19: จุลินทรีย์สุขภาพในน้ำนมแม่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อาจพลิกวิกฤตโควิด-19 ในเด็กเล็ก มูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ – สสส. ชี้ “นมแม่ = วัคซีน”

พญ. ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตระหนักถึงความสำคัญและคุณประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วย “นมแม่” ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ลูกมีความพร้อมในด้านสุขภาพท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19  โดยเฉพาะความพร้อมด้านภูมิคุ้มกันเพราะในน้ำนมแม่นอกจากจะมีภูมิคุ้มกันประเภทเซลล์เม็ดเลือดขาวที่คอยดักจับและย่อยสลายเชื้อโรคแล้ว ยังมีสารต่อต้านการติดเชื้อต่าง ๆ ที่สำคัญยังมีภูมิคุ้มกันที่ได้จากการทำงานของ จุลินทรีย์สุขภาพที่อยู่ในน้ำนมแม่ (human milk microbiome) ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในตัวของลูกให้มีความสมบูรณ์ “ในช่วงสัปดาห์นมแม่โลก และวันแม่แห่งชาตินี้ ขอเชิญชวนให้ทุกครอบครัวเห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และการให้อาหารตามวัยที่เหมาะสม ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ เพื่อสร้างความพร้อมด้านสุขภาพ โดยเฉพาะด้านภูมิคุ้มกัน ทำให้เด็กทารกแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย ยิ่งถ้าแม่เป็นโควิด-19 หรือได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว ตัวของแม่ย่อมมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 สามารถส่งต่อไปให้ลูกผ่านน้ำนมแม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก นมแม่จะทำหน้าที่เป็นวัคซีนเฉพาะกิจในยามวิกฤตให้กับลูก จึงถือเป็นทางเดียวที่จะได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ แม้ยังไม่มีผลการศึกษาแน่ชัด แต่ดีกว่าไม่มีเลย ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนผลักดันให้เกิดสังคมนมแม่ขึ้นให้ได้” พญ.ศิริพร กล่าว ศ.คลินิก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จุลินทรีย์สุขภาพที่อยู่ในน้ำนมแม่ คือจุลินทรีย์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนผิวหนัง ในเยื่อบุอวัยวะ เช่น ปาก-ทางเดินอาหาร เยื่อบุตาLanjutkanLanjutkan membaca “COVID-19: จุลินทรีย์สุขภาพในน้ำนมแม่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อาจพลิกวิกฤตโควิด-19 ในเด็กเล็ก มูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ – สสส. ชี้ “นมแม่ = วัคซีน””

5 คลินิกศัลยกรรมที่ดีที่สุดของคนเกาหลี

ศัลยกรรมเกาหลีที่ไหนดี โรงพยาบาลแต่ละที่มีจุดเด่นและเชี่ยวชาญในเรื่องใดบ้าง สามารถเลือกอ่านได้ตาม List ต่อไปนี้ อันดับ 1 SEOULFACE21 ชื่อเดิมคือ GYALUMHAN Surgery Clinic เป็นคลินิคศัลยกรรมที่มีประสบการณ์และมีความเข้าใจในศาสตร์ด้านการทำศัลยกรรม มามากกว่า 18 ปี ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น SEOULFACE21 และจดทะเบียนเป็นโรงพยาบาลครบวงจร บริหารและผ่าตัดโดยทีมศัลยแพทย์ชื่อดังจากมหาลัยแพทย์โซล เชี่ยวชาญศัลยกรรมใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็ก ตา จมูก ยกกระชับ ไปจนถึงการผ่าตัดใหญ่ทั้งการผ่าตัดโครงหน้าและเลื่อนขากรรไกร ตั้งแต่ปี 1997 ถึงปัจจุบันโรงพยาบาลโซลเฟสแห่งนี้ไม่เคยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการผ่าตัดเลย ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุดสำหรับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา สำหรับที่ SEOULFACE21 ท่านไม่ต้องกังวลเลยค่ะว่าจะมีการสลับเปลี่ยนแพทย์ในระหว่างการผ่าตัด หรือในขณะที่คนไข้ไม่ได้สติ คนไข้สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สามารถเช็คภาพจาก CCTV ภายในห้องผ่าตัดได้เลยทางโรงพยาบาลได้มีการเตรียมวิธีการการแก้ไขปัญหาภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ ปรัชญาของทีมศัลยแพทย์ คือ การรับฟังความต้องการและแนะนำความเป็นไปได้ในการทำศัลยกรรมอย่างตรงไปตรงมา โดยการใช้เทคโนโลยีในการผ่าตัดที่ทันสมัย จึงทำให้ทุกๆการผ่าตัดของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการ เรารับรองได้ว่าผู้เข้ารับบริการของ SEOULFACE21 ท่านจะได้รับการบริการและการดูแลที่ดีตลอดการรักษา ขอให้ท่านมั่นใจว่าเราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน Dr.Kim Nam HoLanjutkanLanjutkan membaca “5 คลินิกศัลยกรรมที่ดีที่สุดของคนเกาหลี”

dกลับมาอีกครั้งกับ Test & Go เปิดลงทะเบียนอีกครั้ง 1 ก.พ. 65 ไม่จำกัดประเทศ

หลังจากการมาของโอมิครอนเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน และเริ่มพบผู้ติดเชื้อจนนำมาสู่การระบาดระลอกใหม่ในเดือนธันวาคม เป็นเหตุให้ ศบค. มีคำสั่งยุติการลงทะเบียนรับผู้เดินทางจากต่างประเทศรายใหม่ ตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา  กอปรกับการผ่อนคลายที่มีมาก่อนหน้าเริ่มส่งผลต่อการระบาดโควิดโอมิครอนและเดลต้าเดิม ในวงกว้างขวางมากขึ้น และเป็นที่วิตกกังวลของหลายฝ่าย ว่าช่วงเวลาเทศกาลปลายปีต่อต้นปี จะทำให้สถานการณ์ระบาดรุนแรงขึ้นหรือไม่ หรือมากเพียงใด   ผ่านเดือนมกราคมไปแล้วครึ่งเดือน ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมาแตะระดับ 8 พันรายต่อวัน และเริ่มทรงตัว ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยยะ รวมทั้งจำนวนผู้หายป่วยก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่มากขึ้นเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าเป็นแนวโน้นที่ค่อนข้างไปในเชิงบวก ข้อมูลผู้ติดเชื้อที่พบในช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่พบความรุนแรงหรือมีแต่น้อยมาก จำนวนไม่น้อยไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย มาตรการ Home Isolation ทำงานได้อย่างได้ผลทั้งการดูแลผู้ป่วยและจำกัดการแพร่กระจายเชื้อไปพร้อมกัน ที่สำคัญจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในไทยทั้ง 3 แบบครบโดส และเข็มกระตุ้นรวมกัน เกิน 110 ล้านโดส ทั่วประเทศ ภาพรวมทั้งประเทศค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเทียบกับคาดการณ์ การเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ จะกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง 20 มกราคม 2565 ศบค.เปิดเผยผลการประชุมที่เป็นมาตรการสำคัญต่อการเปิดประเทศ นั่นคือ การอนุมัติให้เริ่มกับมาเปิดรับลงทะเบียนผู้เดินทางแบบ Test and Go ได้แล้ว และรอบนี้เปิดรับจากทุกประเทศ ไม่จำกัดเฉพาะ 64 ประเทศแบบรอบแรกLanjutkanLanjutkan membaca “dกลับมาอีกครั้งกับ Test & Go เปิดลงทะเบียนอีกครั้ง 1 ก.พ. 65 ไม่จำกัดประเทศ”

5 วิธีป้องกันตัวในช่วงตรุษจีน

กรมอนามัย แนะนำการป้องกัน COVID ช่วงเทศกาลตรุษจีน วางแผนก่อนซื้อ หรือเลือกซื้อของไหว้ จากตลาดที่ผ่านการประเมิน Thai Stop COVID Plus หรือจากร้านค้าที่ให้บริการระบบออนไลน์เมื่อไปตลาดใช้เวลาให้สั้นที่สุด รักษาระยะห่าง เลี่ยงจุดบริการที่มีคนแออัดเมื่อกลับถึงบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำทันทีจัดสถานที่ไหว้ ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก สวมหน้ากากอนามัยล้างมือทุกครั้งก่อน – หลัง ทำพิธี แยกภาชนะปักธูป เลี่ยงการปักลงในอาหาร ลดการเผากระดาษไหว้อุ่นอาหารไหว้ หรือล้างทำความสะอาดอีกครั้ง ก่อนนำมารับประทานการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ  ต้องสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์  รักษาระยะห่างขณะใช้บริการหรือควรเลี่ยงหากสถานที่มีผู้คนแออัด กลับถึงบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำทันที

โรคหายาก หนึ่งในความท้าทายของการเข้าถึงการรักษา

ทาเคดา ประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรจัดการประชุมระดับภูมิภาค”The first Southeast Asia Rare Disease Summit”เพื่อร่วมกำหนดทิศทางด้านการดูแลและการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยโรคหายาก  กรุงเทพฯ 20 มกราคม 2565 – โรคหายาก หรือ Rare Disease เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์ต่ำ มีจำนวนผู้ป่วยน้อย และการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคก็น้อยเช่นกัน โดยกว่าร้อยละ 80 เป็นโรคทางพันธุกรรม ปัจจุบันมีผู้ป่วยกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก1 โดยประมาณ 3.5 ล้านคน หรือ 5% ของประชากรทั้งหมดที่เป็นผู้ป่วยโรคหายากในไทย  และมีผู้ป่วยเพียง 20,000 คนที่เข้าสู่กระบวนการรักษา หนึ่งในความท้าทายของการเข้าถึงการรักษาคือองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่จำกัด มีข้อมูลไม่มากเท่ากับโรคอื่น ๆ จึงทำให้การวินิจฉัยนั้นล่าช้า ไม่สามารถนำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างทันท่วงที ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ป่วย ผู้ดูแล ระบบสาธารณสุข และเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายเพื่อผลักดันให้เกิดการวินิจฉัยที่ถูกต้องและไม่ล่าช้า และการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยโรคหายากได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนขึ้น สมาคมเวชพันธุศาสตร์และจีโนมิกส์ทางการแพทย์ (สวพจ) สมาคมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยโรคหายาก และ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย)LanjutkanLanjutkan membaca “โรคหายาก หนึ่งในความท้าทายของการเข้าถึงการรักษา”

10 สัญญาณเตือน คุณกำลังเสพติดเซ็กซ์ใช่ไหม และวิธีเช็คได้ด้วยตัวเอง

เซ็กซ์ อาจเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรามาอย่างยาวนาน แต่หลายคนเคยสงสัยไหม ว่าเซ็กซ์ที่พอดี มีคุณภาพ มันต้องเท่าไหร่ และแบบไหนถึงจะจัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง สำหรับ “โรคเสพติดเซ็กซ์” หรือ Sex addiction จิตเวชเรียกว่า Hypersexual disorder มีพฤติกรรมอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันครับ 1 หมกมุ่นจนเกินพอดี เราทุกคนล้วนย่อมมีชีวิตประจำวัน และมีหน้าที่ต้องปฎิบัติแตกต่างกันออกไปตามสถานะ และสภาวะของตน เช่น นักเรียนก็ต้องเรียน คุณหมอก็ต้องรักษาผู้ป่วย พ่อค้าแม่ค้า ก็ต้องขายของ ส่วนการหมกมุ่น คือพฤติกรรมที่จะจมอยู่กับกิจกรรมทางเพศ มากเสียจนไม่มีเวลาให้ชีวิตประจำวัน หรือมากเกินกว่าที่คนทั่วไปพึงจะทำ 2 มีความละอายใจที่ลดน้อยลง ทุกครั้งเมื่อเสพสมอารมณ์หมาย จนเกิดความสุขแล้ว ผู้ป่วยจะรู้สึกสับสน ปะปนกันจนแยกไม่ออก ถึงสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจลงไป ในบางครั้งไม่รู้สึกว่าน่าละอาย แม้จะผิดต่อศีลธรรมอันดี บางครั้งก็แยกแยะไม่ได้ว่า สิ่งที่ทำลงไปก่อผลเสียร้ายแรงต่อตนเอง และคนรอบข้าง ความสับสนต่อการตัดสินใจลักษณะนี้ มักสร้างปัญหาอันจะนำไปสู่คดีความต่างๆ 3 ไม่อาจทนต่อแรงยั่วยุ หากว่าต้องพบเจอเข้ากับแรงกระตุ้น หรือสิ่งยั่วยุที่เร้าต่ออารมณ์ ผู้ป่วยมักจะสูญเสียการควคุม โดยเฉพาะการยับยั้งชั่งใจ ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่ว่าสิ่งปลุกเร้าทางเพศจะมีระดับสูงLanjutkanLanjutkan membaca “10 สัญญาณเตือน คุณกำลังเสพติดเซ็กซ์ใช่ไหม และวิธีเช็คได้ด้วยตัวเอง”

คุณควรวางแผนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับลูกของคุณบ่อยแค่ไหน?

คุณควรวางแผนที่จะมีลูกบ่อยแค่ไหน? การมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปส่งผลต่อแผนการมีลูกหรือไม่? นี่เป็นคำถามที่คู่รักที่กำลังเตรียมจะมีลูกคงจะสงสัยกันมาก ศาสตราจารย์ ดร. คุน อุน ผู้อำนวยการแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่โรงพยาบาลคาลเมตต์ อธิบายว่า ทั้งชายและหญิงมีความต้องการทางเพศ ซึ่งแตกต่างกันไปตามปัจจัยด้านสุขภาพและอายุ ถึงแม้จะมีเพศสัมพันธ์แต่ก็ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปเพราะจะทำให้สุขภาพไม่ดีได้ Sex สิ่งที่น่ากังวลคือการมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปส่งผลต่อคุณภาพของอสุจิทำให้คู่สามีภรรยาไม่สามารถมีบุตรได้ . “สเปิร์มต้องใช้เวลาพอสมควรในการเพิ่มปริมาณและคุณภาพในกรณีที่ผู้ชายถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ทุกวัน ทุกวันบางครั้งอาจมีสเปิร์มไม่เพียงพอหรือมีสเปิร์ม แต่สเปิร์มเหล่านั้นยังเด็กอยู่ไม่ได้” อุดมสมบูรณ์” เพื่อสุขภาพของทั้งคู่ หัวหน้าแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลคาลเมตต์ แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง กระทบต่อคุณภาพของอสุจิหรือแผนการเจริญพันธุ์ เพราะในช่วงนี้ ร่างกายของเรามีเวลาเพียงพอในการผลิตสเปิร์มเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย มีคุณภาพ คำนวณวันที่สเปิร์มกินที่นี่ เกี่ยวกับจำนวนการมีเพศสัมพันธ์ในการศึกษาโดยสถาบันเฉพาะทางในสหรัฐอเมริกา Kinsey Institute ซึ่งเน้นเรื่องชีวิต การศึกษาเรื่องเพศภาวะเจริญพันธุ์และเพศวิถีในสหรัฐอเมริกาสำหรับคู่รักที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี ผลการวิจัยพบว่าพวกเขามักจะ มีตัวเรือดประมาณ 112 ครั้งต่อปี (ประมาณสัปดาห์ละสองครั้ง) ) คู่สามีภรรยาที่มีอายุระหว่าง 30-39 ปีใช้เวลาอยู่บนเตียงประมาณ 86 ชั่วโมง/ปี และ 45 ปีLanjutkanLanjutkan membaca “คุณควรวางแผนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับลูกของคุณบ่อยแค่ไหน?”