วัคซีนไรฝุ่น: ศิริราชผลิตวัคซีนครบวงจร ใช้เป็นรายแรกในกลุ่มอาเซียน

รศ.ดร.นพ.พงศกร ตันติลีปิกร ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานคณะกรรมการอำนวยการความร่วมมือการผลิตวัคซีนสำหรับโรคภูมิแพ้ กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคภูมิแพ้ในประเทศไทย ส่งผลให้ศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนาด้านโรคภูมิแพ้และวิทยาภูมิคุ้มกัน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับบริษัท เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด เมื่อปี 2550 เตรียมความพร้อมในการรับมือและเดินหน้าผลิตวัคซีนและน้ำยาทดสอบโรคภูมิแพ้ เพื่อมาดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยระยะแรกได้ผลิตชุดทดสอบ ประกอบด้วย น้ำยาสกัดสารก่อภูมิแพ้ที่จำเป็น 8 ชนิด คือ 1. น้ำยาทดสอบภูมิแพ้ไรฝุ่น ชนิด Dp 2. น้ำยาทดสอบภูมิแพ้แพ้ไรฝุ่น ชนิด Df 3. น้ำยาทดสอบจากขนแมว 4. น้ำยาทดสอบจากขนสุนัข 5.น้ำยาทดสอบจากแมลงสาบ 6.น้ำยาทดสอบจากหญ้าขน (Para Grass) 7.น้ำยาทดสอบจากวัชพืชผักโขม (Careless Weed) 8.น้ำยาทดสอบจากเชื้อรา (Cladosporium spp.) ซึ่งผลจากการทดสอบจะเป็นแนวทางให้แพทย์สามารถให้คำแนะนำในการกำจัดหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้ได้อย่างถูกต้อง และหากมีข้อบ่งชี้ก็สามารถให้การรักษาโดยการฉีดวัคซีนต่อไปได้ รศ.ดร.นพ.พงศกร กล่าวต่อว่า จากชุดทดสอบสารก่อภูมิแพ้ต่อยอดผลิตวัคซีนไรฝุ่น ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ต่อระบบทางเดินหายใจที่พบได้มากที่สุด และเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่มีราคาแพง ดังนั้นทางศูนย์ฯLanjutkanLanjutkan membaca “วัคซีนไรฝุ่น: ศิริราชผลิตวัคซีนครบวงจร ใช้เป็นรายแรกในกลุ่มอาเซียน”

กัญชา: ภัยสุขภาพจากควันมือสอง

ปีหน้าปีอะไร…ปีหนู ปีที่ผ่านมาปีอะไร…ปี “กัญ” ปุุจฉาวิสัชนาข้างต้นเป็นการสนทนาระหว่างแฮรี่และผองเพื่อนชาวฮอกวอร์ต ณ ดาวดวงหนึ่งอันไกลโพ้น หลังจากธานอสได้ดีดนิ้วด้วยถุงมือที่มีอัญมณีทั้งหก สิ่งมีชีวิตในจักรวาลได้หายไปครึ่งหนึ่ง การหายไปนั้นเกิดจากการสุ่มเลือก แต่จะเป็นแบบสุ่มธรรมดา สุ่มแบบแยกชั้น สุ่มแบบกลุ่ม หรือสุ่มอะไรก็ไม่รู้…ธานอสไม่ได้บอกไว้ ดาวที่แฮรี่และเพื่อน ๆ อยู่นั้น สงบลงทันที หลังการดีดนิ้วของธานอส เพราะขณะที่แฮรี่กำลังตวัดไม้กวาด เอ๊ย ไม้กายสิทธิ์ เปล่งแสงสู้กับลอร์ดโวลเดอมอร์อยู่นั้น ท่านลอร์ดก็ดูอ่อนแรงลงอย่างเฉียบพลัน ทำให้พลังแสงของแฮรี่แรงจนทำให้เอลเดอร์วอนด์ของลอร์ดกระเด้งมาสู่มือแฮรี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนคงเคยดูหนังหรือได้ยินตำนานเล่าขานมาว่า แฮรี่ชนะเพราะไม้กายสิทธิ์์ของลอร์ดนั้นจริง ๆ จงรักภักดีต่อแฮรี่ เพราะเขาแย่งจากมัลฟอย แต่จริง ๆ แล้วคงชนะไม่ง่ายขนาดนั้น ตัวพลิกผันเกิดจากการดีดนิ้วสุ่มเลือกของธานอสต่างหาก ในหนัง จึงเห็นจุดจบของลอร์ดจึงสลายร่างกลายเป็นฝุ่นดำลอยหายไป เหมือนกับในอเวนเจอร์เอนด์เกมอย่างกะแกะ อย่างไรก็ตาม เหล่าสิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่นั้น ก็ยังงุนงงกับการต้องใช้ชีวิตในสังคมที่เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่คุ้นเคย มีอะไรแปลกใหม่ให้ต้องฉงนกันอยู่ตลอดเวลา มีการแย่งชิงกันเป็นเสนาบดีกระทรวงต่าง ๆ เพื่อปกครองอาณาเขตพื้นที่อย่างสนุกสนาน ผ่านการจัดเลือกตั้ง ทำแคมเปญประชานิยมกันมากมาย เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียง หลังเลือกตั้ง ได้ชุดปกครองชุดใหม่หน้าเก่าก็หลายคน กระทรวงหนึ่งที่เป็นที่จับตามองของพ่อมดแม่มดคือ กระทรวงเวทมนตร์ หรือ Ministry of MagicLanjutkanLanjutkan membaca “กัญชา: ภัยสุขภาพจากควันมือสอง”

โรงพยาบาลเอกชน: พาณิชย์เปิดรายชื่อ 164 รพ.เอกชนสีเขียวราคายาไม่แพง

“กระทรวงพาณิชย์” ประกาศ รายชื่อ รพ.เอกชนสีเขียวคิดราคาไม่แพง 164 แห่ง จาก รพ.ทั้งหมด 354 แห่ง ให้ประชาชนตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์เพื่อประกอบการตัดสินใจใช้บริการ พร้อมจูงใจ รพ.กลุ่มสีเหลืองและแดงที่คิดราคายาแพงให้เข้ามาอยู่สีเขียวมากขึ้น เตรียมให้คณะบัญชี จุฬาฯศึกษาสาเหตุ หากพบแพงเกิน เรียกมาสอบถาม นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ทางกรมการค้าภายใน ได้เผยแพร่รายชื่อ โรงพยาบาลเอกชนในกลุ่มสีเขียว เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาประกอบการตัดสินใจเข้าไปใช้บริการ โดยผลการพิจารณาพบว่า กลุ่มสีเขียว ที่เป็นกลุ่มโรงพยาบาลคิดราคายาไม่แพงหรือแบบอนุเคราะห์ผู้ป่วย มีโรงพยาบาล 164 แห่ง จากจำนวนทั้งหมด 354 แห่ง ทั้งนี้ กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นสีเขียว ได้ผ่านการพิจารณาจากเกณฑ์ที่ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ จำนวนรายการยาที่โรงพยาบาลนั้นจำหน่าย สูงกว่าราคาเฉลี่ยไม่เกิน 50% ของรายการที่แจ้ง ส่วนต่างราคาจำหน่ายยาสูงกว่าค่าเฉลี่ยต้องไม่เกิน 100% และในช่วงระยะเวลา 1 ปี โรงพยาบาลนั้นต้องไม่เคยมีเรื่องร้องเรียน โดยในจำนวนโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นสีเขียวLanjutkanLanjutkan membaca “โรงพยาบาลเอกชน: พาณิชย์เปิดรายชื่อ 164 รพ.เอกชนสีเขียวราคายาไม่แพง”

โรงพยาบาลในห้างแห่งแรกของไทย

อ่านไม่ผิดหรอก มีจริงๆ ในเมืองไทยของเรา เดอะมอลล์ส่งมอบความสุข สุขภาพดีส่งท้ายปีให้ชาวโคราช นำโรงพยาบาลขึ้นห้างฯเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ร่วมกับ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 25 ธันวาคม 2562 นี้ โดยห้างเดอะมอลล์สนับสนุนพื้นที่ฟรีเป็นเวลา 3 ปี เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์ ใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้

ไดโคลฟีแนค: อย.ทบทวนความปลอดภัยยาฉีดแก้ปวด หลังมีรายงานอาการผิดปกติของเส้นประสาท

อย.เล็งทบทวนความปลอดภัยยาฉีดแก้ปวดไดโคลฟีแนคหลังได้รับคำร้องขอจาก สปสช.ให้ทบทวนความปลอดภัยของยาฉีดไดโคลฟีแนค เนื่องจากมีผู้ใช้ยาได้รับความเสียหายจากอาการผิดปกติของเส้นประสาท อย.เร่งหารือผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเก็บตัวอย่างยาส่งตรวจวิเคราะห์ ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป เผยในช่วง 10 ปี ไม่พบแนวโน้มการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ของยานี้เพิ่มขึ้น นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีหนังสือขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย พิจารณาทบทวนข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์และภาวะไม่พึงประสงค์ของการใช้ยาฉีดแก้ปวดไดโคลฟีแนค (Diclofenac) อย.ได้เร่งดำเนินการพิจารณาและตรวจสอบ โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างหารือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาและทบทวนในเรื่องความปลอดภัยของยา รวมทั้งจะได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างยาฉีดไดโคลฟีแนคส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง หากทราบผลการตรวจสอบที่แน่ชัดจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป และหากมีความเสี่ยงหรือมีผลกระทบของยาจริงจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการศึกษาและเฝ้าระวังอันตรายจากการใช้ยาสำหรับมนุษย์ทันที ทั้งนี้ ยาไดโคลฟีแนค เป็นยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ออกฤทธิ์ช่วยในการบรรเทา อาการปวดบวมจากการอักเสบ ปวดตามข้อ ไขข้อกระดูก เช่น โรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ปวดท้องจากประจำเดือน โรคข้ออักเสบ อาการตึงขัดของข้อ ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพในช่วง 10 ปี ไม่พบแนวโน้มการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า อย.จะติดตามตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพในประเทศอย่างเข้มงวดและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ประชาชนมั่นใจในการดำเนินงานของ อย. ที่มีมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มแข็ง และหากกลุ่มยาตำรับใดมีอันตราย อย.จะแจ้งให้ผู้บริโภคทราบทางสื่อต่าง ๆ ทันทีLanjutkanLanjutkan membaca “ไดโคลฟีแนค: อย.ทบทวนความปลอดภัยยาฉีดแก้ปวด หลังมีรายงานอาการผิดปกติของเส้นประสาท”

ไดโคลฟีแนค: แนะถอนออกจาก รพ.สต. ก่อนมีความชัดเจนว่ามีผลต่อเส้นประสาทหรือไม่

อย.นัดผู้เชี่ยวชาญถกประเด็นอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) วันที่ 23 ม.ค. นี้ ด้าน ผศ.นพ.พิสนธิ์ แนะเบื้องต้นถอนยาตัวนี้ออกจาก รพ.สต.ไปก่อน และหากเชื่อว่ายานี้มีผลต่อเส้นประสาทจริงก็ต้องแก้บัญชียาหลักแห่งชาติ บรรจุยา Ketorolac เป็นทางเลือกแก่ผู้ปฏิบัติงาน ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล อาจารย์ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ม.ค. 2562 ที่จะถึงนี้ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา เพื่อหารือเรื่องการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ Diclofenac injection หรือยาฉีดไดโคลฟีแนค หลังจากพบว่ามีผู้ป่วยเกิดความผิดปกติของเส้นประสาทหลังจากถูกฉีดยาตัวนี้เข้าไป (ทั้งนี้ ยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) เป็นยาในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ช่วยในการบรรเทาอาการปวด บวมจากการอักเสบ ปวดตามข้อ ไขข้อกระดูก เช่น โรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ปวดท้องจากประจำเดือน โรคข้ออักเสบ อาการตึงขัดของข้อ) ผศ.นพ.พิสนธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดในขณะนี้คือมีคนไข้จำนวนเยอะพอสมควรที่ทำเรื่องขอเงินเยียวยาไปยังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จนคณะกรรมการ สปสช.กังวลว่ามีเคสเข้ามาเรื่อยๆ จึงทำหนังสือออกไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้ระมัดระวังยาตัวนี้ หรือกระทำการบางอย่างเพื่อลดปัญหาการฉีดยาตัวนี้ลงLanjutkanLanjutkan membaca “ไดโคลฟีแนค: แนะถอนออกจาก รพ.สต. ก่อนมีความชัดเจนว่ามีผลต่อเส้นประสาทหรือไม่”

ไวรัสโคโรนา 2019: แอป ‘ใกล้มือหมอ’ เช็คอาการโควิด-19 แค่ปลายนิ้ว ช่วยคนไทยรู้เร็ว รักษาเร็ว หายเร็ว

สสส.เปิดตัวแอปพลิเคชัน “ใกล้มือหมอ ” อุ่นใจเหมือนมีแพทย์อยู่ด้วย 24 ชม. เช็คอาการโควิด-19 แค่ปลายนิ้ว ย่อตำราแพทย์ฉบับเข้าใจง่าย หวังช่วยคนไทย “รู้เร็ว รักษาเร็ว หายเร็ว” แถมเป็นตัวช่วย อสม. คัดกรองโรคเบื้องต้นกว่าพันโรค ชวนโหลดใช้งานฟรี ได้แล้ววันนี้ นางสาวสุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ตั้งต้นให้การสนับสนุนโครงการแพทย์เฉพาะทางบาทเดียว เพื่อสนับสนุนการให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องด้านการแพทย์และสุขภาพและน่าเชื่อถือผ่านสื่อออนไลน์แก่ประชาชนทั่วไป ที่สำคัญมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่เข้าร่วมตอบคำถามในโครงการเป็นแพทย์จิตอาสา มีจิตสาธารณะ นับเป็นแบบอย่างที่ดี และเมื่อโครงการต่อยอดมาเป็นแอปฯ “ใกล้มือหมอ” สสส.เห็นว่าเป็นโครงการที่สามารถก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนด้านการสร้างเสริมสุขภาวะได้ ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยอสม.ในการดูแลสุขภาพประชาชน สามารถลดภาระงานของแพทย์ในโรงพยาบาล ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาล และลดภาระงบประมาณการรักษาพยาบาลของประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่มีระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประชาชนสามารถเข้าในแอปฯเพื่อเช็คอาการหากสงสัยว่ามีแนวโน้มติดเชื้อหรือไม่ พร้อมแนวทางการดูแลตัวเอง และ่รายชื่อโรงพยาบาลที่สามารถทำการตรวจเชื้อ PCR ของโควิด-19 ได้ทันที ร.อ.นพ.อดุลย์ชัย ธรรมาแสงเสริฐ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ผู้จัดการโครงการเครือข่ายผู้อภิบาลสุขภาพใกล้ชิดหมอทางไกล ด้วยแอปพลิเคชัน กล่าวว่า แอปพลิเคชัน “ใกล้มือหมอ” เป็นเครื่องมือที่สามารถวินิจฉัยโรคเบื้องต้น โดยแสดงผลของโรคที่มีความเสี่ยงLanjutkanLanjutkan membaca “ไวรัสโคโรนา 2019: แอป ‘ใกล้มือหมอ’ เช็คอาการโควิด-19 แค่ปลายนิ้ว ช่วยคนไทยรู้เร็ว รักษาเร็ว หายเร็ว”

PrEP: กรมควบคุมโรคคาดอีก 4 ปีให้บริการยา ป้องกัน HIV ได้เต็มรูปแบบทั่วประเทศ

กรมควบคุมโรคชี้สถานการณ์โรคเอดส์ของไทยเข้าสู่ระยะ Last Mile คาดให้บริการยาต้านไวรัสก่อนมีการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PrEP) ได้เต็มรูปแบบภายใน 4 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าปี 2573 ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เหลือต่ำกว่า 1,000 ราย นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวบรรยายหัวข้อ “นโยบายการใช้เพร็พในการยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทย” ในงานสัมมนาติดตามความคืบหน้าของการให้บริการเพร็พในประเทศไทยเพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสที่ได้ทรงรับการถวายตําแหน่ง UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia-Pacific ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปีมานี้ ประเทศไทยได้ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อแก้ปัญหาเอดส์ ทั้งการสร้างระบบบริการที่เข้มแข็ง การสร้างบุคลากร การสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคประชาสังคมเพื่อเป็นส่วนเติมเต็มการแก้ไขปัญหาเอดส์ มีการพัฒนาฐานข้อมูลและลงทุนด้านการให้ยา ฯลฯ หากดู Preference ต่าง ๆ ในกลุ่มทหารเกณฑ์ เมื่อก่อนมีทหารเกณฑ์ติดเชื้อ 10% ปัจจุบันมีไม่ถึงLanjutkanLanjutkan membaca “PrEP: กรมควบคุมโรคคาดอีก 4 ปีให้บริการยา ป้องกัน HIV ได้เต็มรูปแบบทั่วประเทศ”

ไดโคลฟีแนค: สภาการพยาบาลชี้ห้ามฉีดยา เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล

สภาการพยาบาลชี้การออกประกาศห้ามฉีดยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล เผยมีการตั้งคณะทำงานรีวิวความรู้และเคสต่าง ๆ แล้ว สรุปว่าอาจส่งผลข้างเคียงถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการแม้วิธีการฉีดจะถูกต้องก็ตาม ถ้าแพทย์จะใช้ยานี้ แพทย์ต้องเป็นผู้ฉีดเองจะได้เฝ้าระวังต่อเนื่อง รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล กล่าวถึงการออกประกาศสภาการพยาบาลเรื่องห้ามมิให้ใช้ยา Diclofenac ชนิดฉีดว่า สภาการพยาบาลได้ตั้งคณะทำงานเพื่อรีวิวความรู้และเคสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจนได้ข้อสรุปออกมาเช่นนี้ เนื่องจากยาดังกล่าวอาจส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะเร่งด่วนที่อาจคุกคามคนไข้ถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการแม้ว่าวิธีการฉีดจะถูกต้องก็ตาม เพราะฉะนั้นถือเป็นยาอันตราย ถ้าแพทย์จะใช้ยานี้ แพทย์ต้องเป็นผู้ฉีดเองเพื่อจะได้เฝ้าระวังต่อเนื่องรวมถึงไม่มีปัญหาขณะฉีด “ที่ผ่านมาอาจมีฉีดบ้างภายใต้การดูแลของแพทย์แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้ว ถ้ารีวิวดู ยามันมีผลที่อาจมีอาการข้างเคียงที่อันตรายกับหลายระบบในร่างกายของคนไข้ ยาตัวนี้จึงไม่ควรให้พยาบาลฉีด” รศ.ทัศนา กล่าวอีกว่า นอกจาก Diclofenac ชนิดฉีดแล้ว มียาตัวอื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนไข้ให้เลือกใช้ ซึ่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่หรือแพทย์ทางโรคกระดูกก็ไม่นิยมจะใช้ยาตัวนี้แล้ว แต่บางครั้งยังมีการสั่งให้ใช้ยาตัวนี้ ประกาศของสภาการฯ จึงคุ้มครองไม่ให้พยาบาลเป็นผู้ฉีดยา เพราะอันตรายอาจเกิดกับคนไข้และความไม่ถูกต้องก็อาจเกิดกับตัวพยาบาลด้วย อนึ่ง ประกาศสภาการพยาบาลฉบับนี้ ตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 20 ธ.ค. 2562 โดยให้มีผลในวันถัดไป สาระสำคัญคือ 1.ห้ามมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ให้ยา Diclofenac ชนิดฉีด และ 2.ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลLanjutkanLanjutkan membaca “ไดโคลฟีแนค: สภาการพยาบาลชี้ห้ามฉีดยา เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล”

ไวรัสโคโรนา 2019: ลักษณะการกลายพันธุ์

ธีระ วรธนารัตน์ มีอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่งชวนให้เล่าเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา 2019 จริง ๆ แล้วในวารสารทางการแพทย์มีหลายต่อหลายฉบับทำการเสนองานวิจัยเกี่ยวกับพันธุกรรมของไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีชื่อว่า SARS CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรค COVID-19 ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยที่วิเคราะห์ถึงสายพันธุ์ของไวรัสนี้ที่ระบาดในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รายละเอียดที่มีนั้นค่อนข้างลึกและอาจยากต่อการทำความเข้าใจสำหรับคนทั่วไปที่มิได้อยู่ในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ผมจึงลองสรุปมาเล่าให้ฟังแบบย่อ ๆ จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมากในช่วงไม่กี่วันก่อน 1. ไวรัสนี้มาจากไหน? ล่าสุดมีงานวิจัยที่เป็นที่โจษจันเกี่ยวกับวิวัฒนาการของไวรัสนี้ ทำโดยทีมนักวิจัยชาวจีน ซึ่งวิเคราะห์สายพันธุกรรมของไวรัสจำนวน 103 ตัวอย่าง พบว่า เดิมที่เคยคิดว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้น่าจะเกิดการผสมข้ามสายพันธุ๋กับไวรัสอื่นที่อยู่ในสัตว์ประเภทตัวลิ่น (Pangolin) นั้น อาจไม่ใช่อย่างที่เคยมีการตั้งสมมติฐานไว้ เนื่องจากลักษณะของสายพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงนั้น หากมีการผสมข้ามสายพันธุ์จากไวรัสจากตัวลิ่มจริงโดยวิเคราะห์ต่อยอดจากสายพันธุกรรมของไวรัส SARS CoV แล้ว เจ้าไวรัส SARS CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรค COVID-19 นี้น่าจะเริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 19.8-55.4 ปีก่อน แล้วตกลงไวรัสนี้น่าจะเกิดมาจากไหน? เค้าคิดว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดจากการกลายพันธุ์ (mutation) ของตัวไวรัส SARS CoV ที่เกิดบ่อยและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงส่วนหนามของไวรัส (spike) ควบคู่ไปกับกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ จนทำให้มีความคล้ายกับไวรัสในตัวลิ่นLanjutkanLanjutkan membaca “ไวรัสโคโรนา 2019: ลักษณะการกลายพันธุ์”

PrEP: อีกทางเลือกป้องกันเอชไอวี สปสช.เตรียมวิจัยว่าจะเป็นชุดสิทธิประโยชน์ในลักษณะใด

เลขาธิการ สปสช.ชี้ สถานการณ์โรคเอดส์ในไทยดีกว่าอดีตอย่างมาก เป็นโรคเดียวที่มีอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงขณะที่โรคเรื้อรังอื่น ๆ มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น ชู PrEP เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือหลักในการควบคุมการแพร่เชื้อเอชไอวี เตรียมศึกษาวิจัย 1 ปีหลังนำร่องปี 2563 ให้กลุ่มเสี่ยง 2,000 รายแล้ว ก่อนตัดสินใจว่าจะประกาศเป็นชุดสิทธิประโยชน์ทั่วประเทศในลักษณะใด นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการบริหารจัดการเพร็พภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสที่ได้ทรงรับการถวายตําแหน่ง ทูตสันถวไมตรีโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชนในการป้องกันเอชไอวีในภูมิภาคเอวียและแปซิฟิก (UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia-Pacific) ว่า ในอดีตโรคเอดส์เป็นโรคที่น่ากลัวมาก คนไข้หมดทางรักษาและเสียชีวิตมากมาย ถึงขนาดมีความกังวลว่าโรคนี้จะทำลายมนุษยชาติ แต่ไม่น่าเชื่อว่าในระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การการดำเนินการหลายๆ อย่าง ทำให้สถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาพใหญ่คือ 1.การตัดสินใจทางการเมืองที่รัฐบาลมีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ 2.ระบบบริการที่มีความเข้มแข็งตั้งแต่ส่วนกลาง ภูมิภาคไปจนถึงระดับพื้นที่ ถ้าไม่มีระบบบริการที่เข้มแข็งก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 3.องคาพยพทางด้านวิชาการ มีการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์มากขึ้น จนสามารถถอดบทเรียนและนำไปขยายผลเพื่อลดอัตราการติดเชื้อรายใหม่ 4.การมีส่วนร่วม โดยงานเกี่ยวกับโรคเอดส์จะไม่สำเร็จเลยถ้าขาดการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างLanjutkanLanjutkan membaca “PrEP: อีกทางเลือกป้องกันเอชไอวี สปสช.เตรียมวิจัยว่าจะเป็นชุดสิทธิประโยชน์ในลักษณะใด”

ไดโคลฟีแนค: สภาการพยาบาล ออกประกาศ ห้ามพยาบาลฉีดยา

สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามพยาบาลฉีดยา ไดโคลฟีแนค แต่ให้ทำหน้าเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือแพทย์ในการดูแลผู้รับบริการก่อนและหลังการฉีดยา Diclofenac ตามมาตรฐานวิชาชีพเท่านั้น ระบุเป็นไปตาม คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ที่แนะนำให้จำกัดการใช้ยาฉีดไดโคลฟีแนค เฉพาะโรงพยาบาลระดับตติยภูมิขึ้นไป โดยให้แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้รับบริการ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสภาการพยาบาลเรื่อง ห้ามมิให้ยา Diclofenac ชนิดฉีด โดยระบุว่า เนื่องจากยา Diclofenac ชนิดฉีด ซึ่งเป็นยาแก้ปวดในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์มีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อผู้รับบริการภายหลังการฉีดยามีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับคู่มือการดำเนินงานโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (Rational Drug Use Hospital Manual) โดยคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ (2558) แนะนำให้จำกัดการใช้ยา Diclofenac ชนิดฉีด เฉพาะโรงพยาบาลระดับตติยภูมิขึ้นไป โดยให้แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้รับบริการ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 วรรคสอง 7.2 และข้อ 18 วรรคสอง 18.2 แห่งข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2560 สภาการพยาบาลโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสภาการพยาบาลในการประชุมครั้งที่ 9/2562 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 จึงออกประกาศไว้LanjutkanLanjutkan membaca “ไดโคลฟีแนค: สภาการพยาบาล ออกประกาศ ห้ามพยาบาลฉีดยา”

Medical Tourism: ไต้หวันดันการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพสุดตัว เปิด รพ.รัฐอ้าแขนรับคนไข้ต่างชาติ

รัฐบาลไต้หวันโปรโมตธุรกิจการแพทย์ ดึงพ่อค้าไทยร่วมลงทุน ชี้เทคโนโลยี “ปลูกถ่ายตับ – ผสมเทียม” อันดับต้น ๆ ของโลก เผยปี 61 มีนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Tourism มากกว่า 4.2 แสนคน 1 ใน 3 มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมากกว่า 7,000 คน มาจากประเทศไทย ซึ่งหมายความว่า เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับไต้หวัน วันที่ 4 ธันวาคม 2562 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล กรุงเทพฯ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจำประเทศไทย จัดงาน Taiwan Healthcare Seminar เพื่อโชว์ศักยภาพธุรกิจด้านสุขภาพของไต้หวัน โดยเชิญนักธุรกิจ ผู้บริหารโรงพยาบาล – ศูนย์การแพทย์ รวม 7 แห่ง ได้แก่ Nobel Eyes Institute สถาบันดูแลสายตา ผ่าตัดเลเซอร์ และผ่าตัดต้อกระจก,LanjutkanLanjutkan membaca “Medical Tourism: ไต้หวันดันการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพสุดตัว เปิด รพ.รัฐอ้าแขนรับคนไข้ต่างชาติ”

PrEP: แนะปรับภาพลักษณ์ป้องกัน HIV เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ รู้สึกภูมิใจที่ได้ดูแลตัวเอง

หัวหน้าหน่วยพรีเวนชั่น ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ แนะปรับภาพลักษณ์ของการจัดบริการยาป้องกันการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (เพร็พ) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพและทำให้ผู้ใช้รู้สึกภูมิใจที่ได้ดูแลตัวเองเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น ชี้หากบอกว่าเพร็พมีสำหรับคนที่มีความเสี่ยงสูงจะเข้าถึงคนจำนวนน้อยเพราะมีไม่กี่คนที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมชูโมเดล “เพร็พพระองค์โสมฯ” ให้องค์กรชุมชนเป็นผู้ออกแบบบริการด้วยตัวเองเพื่อให้สอดคล้องความต้องการและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมารับบริการได้เป็นอย่างดี พญ.นิตยา ภานุภาค หัวหน้าหน่วยพรีเวนชั่น ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวบรรยายในหัวข้อ “สถานการณ์การใช้เพร็พในประเทศไทยรวมทั้งโครงการเพร็พพระองค์โสมฯ” ในงานสัมมนาติดตามความคืบหน้าของการให้บริการเพร็พในประเทศไทยเพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสที่ได้ทรงรับการถวายตําแหน่ง UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia-Pacific ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยฉายภาพให้เห็นว่าประเทศไทยเริ่มนำเพร็พ (การจัดบริการยาป้องกันการสัมผัสเชื้อเอชไอวี) เข้าสู่แนวทางการดูแลป้องกันและรักษาเอชไอวีตั้งแต่ 5 ปีก่อน จนปัจจุบันสามารถทำให้มีผู้ได้รับเพร็พ 7,260 ราย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะนำร่องอีก 2,000 ราย ขณะที่กลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับเพร็พมีถึง 143,098 รายถึงจะสร้าง Impact ในการควบคุมโรคได้LanjutkanLanjutkan membaca “PrEP: แนะปรับภาพลักษณ์ป้องกัน HIV เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ รู้สึกภูมิใจที่ได้ดูแลตัวเอง”

PrEP: ‘อภ.-สปสช.’ เตรียมยารองรับกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิ 2,000 รายเริ่ม 1 ม.ค.63

อภ.เตรียมยาต้านไวรัสเอดส์ พร้อม รองรับบริการ PrEP ป้องกันเอดส์ในกลุ่มเสี่ยง ที่จะเริ่มเปิดให้บริการนำร่องในสถานพยาบาล 51 แห่ง ใน 1 มค. 63 นี้ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ปรับปรุงรายการบริการในสิทธิประโยชน์การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ก่อนการสัมผัสเชื้อ (Pre-Exposure Prophylaxis หรือ PrEP) กลุ่มเสี่ยงสูงทุกกลุ่ม ในพื้นที่มีความพร้อม โดยเปิดให้บริการนำร่องในสถานพยาบาล 51 แห่ง ใน 21 จังหวัดให้บริการ PrEP ด้วยยา TENO-EM สำหรับกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 2,000 ราย ด้วยงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยองค์การฯ ได้มีการจัดเตรียมยา TENO-EM ไว้พร้อมสำหรับการบริการป้องกันการติดเชื้อ HIV ก่อนการสัมผัสเชื้อ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อว่า การให้บริการLanjutkanLanjutkan membaca “PrEP: ‘อภ.-สปสช.’ เตรียมยารองรับกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิ 2,000 รายเริ่ม 1 ม.ค.63”