การวัดการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry)

การวัดการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry)
                การวัดการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry) เป็นการตรวจเพื่อประเมินแบบ แผนการปัสสาวะที่ผิดปกติ เครื่องตรวจ uroflowmeter ประกอบด้วย กรวยที่รับปัสสาวะของผู้ป่วย ที่วัด flow rate (ปริมาณปัสสาวะที่ถ่ายออกมาใน 1 วินาที) การไหลอย่างต่อเนื่อง (เวลาที่วัดการไหลของปัสสาวะ) และการหยุดไหลชั่วคราว ช่วงเวลาที่ปัสสาวะ ทั้งหมด รวมทั้งเวลาที่หยุดไหล)

วัตถุประสงค์
1.เพื่อประเมินหน้าที่ของทางเดินปัสสาวะ
2.เพื่อแสดงให้เห็นถึงการอุดกั้นของทางระบายของกระเพาะปัสสาวะ

การเตรียมผู้ป่วย

  1. บอกผู้ป่วยว่าการตรวจนี้ใช้ประเมินแบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะ  และไม่ให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะเป็นเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงก่อนการตรวจ และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ กระเพาะปัสสาวะขยายเต็มที่ และจะได้ช่วยกระตุ้นให้มีแรงเบ่งถ่ายปัสสาวะ
  2. อธิบายวิธีการตรวจให้ผู้ป่วยทราบ รวมทั้งผู้ทำหน้าที่ตรวจและสถานที่ตรวจ
  3. บอกผู้ป่วยให้ยืนนิ่ง ๆ ขณะถ่ายปัสสาวะในระหว่างการตรวจเพื่อช่วยให้ผลการตรวจได้ผลที่แน่นอน
  4. บอกผู้ป่วยว่าแพทย์จะสั่งให้หยุดยา  ที่มีผลต่อกระเพาะปัสสาวะ และความตึงตัวของหูรูด เช่น ยาที่ทำให้มีการหดเกร็งการถ่ายปัสสาวะ
  5. เตือนผู้ป่วยไม่ให้ออกแรงเบ่งถ่ายปัสสาวะมากเกินไปขณะถ่ายปัสสาวะ

การตรวจและการดูแลหลังตรวจ

1.เตือนผู้ป่วยว่าอย่างเบ่งขณะถ่ายปัสสาวะ
2.บอกผู้ป่วยชายให้ยืนปัสสาวะ ส่วนผู้หญิงนั่งปัสสาวะ
3.ผู้ป่วยกดปุ่ม START ที่ commode  chair  นับ 5 วินาที  และถ่ายปัสสาวะเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยนับ 5 วินาทีและกดปุ่มอีกครั้ง ปริมาณปัสสาวะที่ถ่าย ออกมาจะถูกบันทึกและถูกลากเส้นเป็นส่วนโค้งที่อยู่บนเวลาของการถ่ายปัสสาวะ  บันทึกท่าของผู้ป่วยและการได้รับน้ำ เช่น ดื่มเอง ให้ทางหลอดเลือดดำ
4.บอกผู้ป่วยให้งดยาที่เคยรับประทานอยู่ก่อนตรวจ
5.การตรวจนี้จะมีเครื่องบอกผู้ป่วยให้กลั้นปัสสาวะไว้  หรือเมื่อกระเพาะปัสสาวะขยายออก รวมทั้งตรวจวัดน้ำเข้า – ออก หากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางระบบประสาทกระเพาะปัสสาวะให้สอนวิธีสวนปัสสาวะด้วยตนเอง

ข้อควรระวัง
1.ระดับของ transducer ต้องอยู่ตรงกลางใกล้กับกรวย
2.กรวยต้องใหญ่พอที่จะเก็บปัสสาวะได้

ผลการตรวจที่เป็นปกติ
-เพศชายมีอัตราไหลของปัสสาวะประมาณ 15 มิลิลิตรต่อวินาที
-เพศหญิงมีอัตราไหลของปัสสาวะประมาณ 18 มิลลิลิตรต่อวินาที

ผลการตรวจที่ผิดปกติ
มีอัตราการไหลของปัสสาวะที่เพิ่มขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่าความดันในท่อปัสสาวะลดลง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับหูรูดภายนอกที่ผิดปกติ   ดูลักษณะของส่วนโค้งของ uroflow

ส่วนโค้งที่สูงเป็นเวลาที่ถ่ายปัสสาวะที่มากกว่า  บ่งชี้ว่าแรงต้าน outflow ลดลง หรืออาจเนื่องจาก การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (stress incontinence) ถ้าอัตรา การไหลของปัสสาวะ (flow rate) ลดลง บ่งชี้ว่ามีการอุดกั้นของปัสสาวะที่พุ่งออกมา (outflow) หรือกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนนิ่ม (hypotonia) หรือมีมากกว่าหนึ่ง peak ใน normal curve บ่งชี้ว่ามีการเบ่งที่ผิดปกติหรือเนื่องจากมีแรงต้านเป็นการอุดกั้นต่อปัสสาวะที่ไม่มีปัสสาวะ

[Total: 0 Average: 0]