แท้งบุตร

ท้งบุตร หมายถึง การที่ตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ถูกขับออกมาก่อนตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์ พบได้ประมาณร้อยละ10-15 ของการตั้งครรภ์ มักเกิดในช่วงการตั้งครรภ์ได้ 4-20 สัปดาห์

สาเหตุ แท้งบุตร

                มีได้หลายอย่าง เช่น การกระทบกระเทือน (เช่น หกล้ม) มดลูกมีความผิดปกติ (เช่น มีก้อนเนื้องอกการอักเสบความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิด) ตัวอ่อนหรือ ทารกในครรภ์มีความผิดปกติ (เช่น พิการแต่กำเนิด การติดเชื้อจากมารดา) มารดามีโรคประจำตัว (เช่น เบาหวาน ภาวะพร่องไทรรอยด์ เอสแอลอี) หรือโรคติดเชื้อต่าง ๆ (เช่น หัด หัดเยอรมัน มาลาเรีย) มีภาวะหมู่เลือดของทารกและมารดาเข้ากันไม่ได้ (Rh incompatability) 

                การตั้งใจกินยาขับหรือให้คนทำแท้ง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการแท้งได้

                บางรายอาจไม่พบสาเหตุที่ชัดเจนก็ได้  

อาการ แท้งบุตร

                ในระยะแรกที่ทารกหรือตัวอ่อนยังมีชีวิตอยู่อาจ มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดเพียงเล็กน้อย ร่วมกับปวดในท้องน้อย และปวดหลังเล็กน้อยหากผู้ป่วยได้ นอนพักเต็มที่ 3-4 วัน เลือดอาจหยุดได้เองและการตั้งครรภ์อาจดำเนินต่อไปได้เป็นปกติ

                ระยะนี้ถือว่า ยังไม่มีการแท้งเกิดขึ้น เรียกว่า การแท้งคุกคาม (threatened abortion)

                แต่ถ้าตัวอ่อนเสียชีวิตลง การแท้งจะเกิดขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการตกเลือดมาก ปวดบิดในท้องรุนแรงคล้าย คลอดบุตรและอาจเห็นก้อนชิ้นเนื้อของตัวอ่อนหลุดออกมา

                ถ้าตัวอ่อนและเศษรกหลุดออกมาได้หมด อาการตกเลือดจะค่อย ๆ หยุดลงและค่อย ๆ หายปวดท้อง เรียกว่า การแท้งโดยสมบูรณ์ (complete abortion) 

                แต่ถ้ายังมีเศษรกค้างอยู่ผู้ป่วยก็ยังคงมีอาการปวดท้องและตกเลือดต่อไป เรียกว่า การแท้งไม่สมบูรณ์ (incomplete abortion) ซึ่งอาจต้องทำการขูดมดลูกนำ เศษรกที่ค้างออก

                ถ้าผู้ป่วยเสียเลือดมากอาจมีอาการซีด หรือถึงกับ เกิดภาวะช็อก

การป้องกัน แท้งบุตร

                1.  การทำแท้งกันเองเป็นสิ่งที่มีอันตรายมาก เพราะ อาจติดเชื้ออักเสบถึงตายได้ จึงควรหลีกเลี่ยง หากมีปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้อง

                2.  ผู้ที่เคยแท้งเองมาก่อนอาจมีโอการแท้งได้ในครรภ์ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเคยแท้งติดต่อกัน ตั้งแต่ 2 ท้องขึ้นไปการตั้งครรภ์ในครั้งต่อไปควรฝากครรภ์เสียแต่เนิ่น ๆ และพักผ่อนให้มาก ๆ ผู้ที่เคยแท้งติดต่อกัน 3 ท้องขึ้นไปเรียกว่า การแท้งเป็นอาจิณ (habitual abortion)  ซึ่งมักมีสาเหตุที่เกี่ยวกับความผิดปกติของมดลูกหรือทารกในครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุและแก้ไข

การรักษา แท้งบุตร

                1.ถ้าเลือดออกไม่มาก ปวดท้องไม่มากและยัง ไม่มีตัวอ่อนหลุดออกมาให้เห็น แนะนำให้ผู้ป่วยนอนพักบนเตียง 3-4 วัน อย่าทำงานอาจให้ยาพาราเซตามอล กินแก้ปวด

                ถ้าเลือดหยุดและหายปวดท้องทารกก็มักจะมีชีวิตรอด และการตั้งครรภ์สามารถดำเนินต่อไปได้

                2.ถ้าเลือดออกมากปวดท้องมาก และมีตัวอ่อน หลุดออกมาให้เห็น แสดงว่ามีการแท้งเกิดขึ้นแล้ว ควรส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการขูดมดลูกเอาเศษรกออก

                ในรายที่ตกเลือดมากหรือมีภาวะช็อก ควรให้น้ำเกลือแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล อาจต้องให้เลือด

                3. ถ้ามีตัวอ่อนหลุดออกมาแล้ว ผู้ป่วยหายปวดท้อง และเลือดออกน้อยลงก็ให้ผู้ป่วยนอนพัก ถ้าซีดให้ยาบำรุงโลหิต

                ถ้ายังมีเลือดออกอยู่เรื่อย ๆ ให้ฉีดยาบีบมดลูก เช่น เมทิลเออร์โกเมทรีน (0.2 มก.) ครึ่ง- 1 หลอด เข้ากล้ามเนื้อแต่ถ้ายังมีเลือดออกมากหรือมีภาวะช็อก ควรให้น้ำเกลือแล้วส่งโรงพยาบาลด่วน

                4.ในรายที่สงสัยมีการอักเสบของเยื่อบุมดลูกร่วมด้วย เช่น มีไข้ มีตกขาวกลิ่นเหม็นควรให้การรักษา แบบเยื่อบุมดลูกอักเสบ 

[Total: 0 Average: 0]