โรคถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบ คือ โรคที่พบมากในนักกีฬาจำพวกที่มีการใช้ช่วงสะโพกอย่างหนัก เช่น นักวิ่งมาราธอน นักไต่เขา และนักปั่นจักรยาน เพราะกีฬาเหล่านี้จะมีการเคลื่อนไหวของสะโพกในรูปแบบเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลให้ถุงน้ำในข้อสะโพกเกิดการเสียดสีกับกล้ามเนื้อและกระดูกจนเกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ โรคถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบ ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคข้อสะโพกอักเสบอีกด้วย
ถุงน้ำ (bursa) เป็นของเหลวก้อนเล็ก ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วมักอยู่ระหว่างกระดูกและกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น โดยการทำงานของถุงน้ำ (bursa) นี้ ทำหน้าที่ป้องกันการเสียดสีระหว่างกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน
ถุงน้ำ (bursa) จะมีอยู่รอบๆข้อต่อสะโพกประกอบด้วย
- Trochanteric bursa – อยู่บริเวณส่วนบนสุดด้านนอกของสะโพก ระหว่างกระดูกโคนขา (greater trochanter) และอยู่ติดกับกล้ามเนื้อสะโพก (gluteal muscles)
- Gluteus medius bursa – ถุงน้ำขนาดเล็กมากที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อสะโพก (gluteus medius) และกระดูกโคนขา (greater trochanter) อยู่บริเวณกึ่งกลางของ (trochanteric bursa)
- Iliopsoas bursa – อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อ iliopsoas ที่อยู่ด้านหน้าของข้อต่อสะโพกของกระดูก
- Ischial bursa – อยู่ระหว่างเส้นเอ็นร้อยหวายและฐานกระดูกเชิงกราน
สาเหตุ โรคถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบ
- มีการใช้งานสะโพกมากเกินไป
- อุบัติเหตุล้มก้นกระแทก
- มีประวัติเป็นโรคข้อกระดูก
- ความยาวขาไม่เท่ากัน
- หินปูนเกาะกระดูกต้นขา
อาการ โรคถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบ
- มีอาการปวดช่วงสะโพกลามไปถึงขาหนีบและต้นขา
- มีอาการปวดมากขึ้นและลามเป็นวงกว้าง
- ปวดมากขึ้นเมื่อนอนตะแคงตอนกลางคืน
- ปวดมากขึ้นเมื่อเดินขึ้นลงบันได
การรักษา โรคถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบ
การตรวจโรคถุงน้ำรอบข้อสะโพกอักเสบควรตรวจด้วยเครื่อง MRI เนื่องจาก MRI สามารถแสดงภาพความผิดปกติของถุงน้ำและกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน เพื่อให้แพทย์สามารพวินิจฉัยความรุนแรงของโรค เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและแม่นยำ
- ปรึกษานักกายภาพบำบัด
- พักผ่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้น
- การรักษาด้วยความเย็น Cold therapy
- วิ่งบนพิ้นผิวที่เรียบเท่านั้น
- การรักษาด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ Ultrasound เพื่อช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ
- หากทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด