ตับอ่อนอักเสบ คือ ภาวะที่น้ำย่อยในตับอ่อนไม่สามารถไหลผ่านท่อของตับอ่อนได้ ทำให้น้ำย่อยทำการย่อยเนื้อเยื่อของตัวตับอ่อนเอง จนทำให้เกิดอาการอักเสบ หากตับอ่อนอักเสบมากๆ ก็จะเกิดอาการตับอ่อนเรื้อรัง จนอาจมีคราบหินปูนมาเกาะที่ตับอ่อน
ตับอ่อนอักเสบ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
สาเหตุ ตับอ่อนอักเสบ
ดังที่กล่าวไปแล้วว่า โรคตับอ่อนอักเสบทั้งการอักเสบชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรังนั้นมีความเกี่ยวพันกัน เพราะการอักเสบเรื้อรังจะเกิดต่อเนื่องมาจากการอักเสบเฉียบพลัน ดังนั้นสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงจึงเหมือนกัน ซึ่งสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่พบได้บ่อย ๆ (รวมกันประมาณ 80%) ของโรคตับอ่อนอักเสบทั้งหมดจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ จากโรคนิ่วในถุงน้ำดีและจากการดื่มแอลกอฮอล์จัด
อาการ ตับอ่อนอักเสบ
อาการของตับอ่อนอักเสบเรื้อรังเฉียบพลัน
อาการของตับอ่อนอักเสบที่พบบ่อยได้แก่
- ปวดท้อง บริเวณกลางลิมปี่ร้าวไปด้านหลัง
- คลื่นไส้ อาเจียน ผู้ที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการขาดน้ำ
- มีไข้
- เหงื่อออก
- กดหน้าท้องจะเจ็บ
- หัวใจเต้นเร็ว
- หายใจเร็ว
อาการของตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
อาการจะเหมือนตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน แต่จะมีอาการปวดบริเวณลิ่มปีและร้าวไปหลังแบบเรื้อรัง ถ่ายเป็นมูกมัน(ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง) น้ำหนักลดเนื่องจากมีปัญหาในการดูดซึมอาหาร อาจจะมีโรคเบาหวานร่วมด้วย
การรักษา ตับอ่อนอักเสบ
การรักษาตับอ่อนอักเสบ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
- การรักษาตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
- โดยปกติ การรักษาผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน จะเป็นการให้สารน้ำผ่านทางหลอดเลือด และให้ยาบรรเทาอาการปวดที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยอาจต้องงดรับประทานอาหารและน้ำ เพื่อลดการทำงานของตับอ่อนจนกว่าอาการอักเสบจะทุเลาลง โดยแพทย์จะให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดดำ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ภาวะช็อก และรักษาสมดุลของเกลือแร่จนกว่าผู้ป่วยจะรับประทานอาหารทางปากได้
- สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องเข้าพักรักษาที่ห้องดูแลผู้ป่วยหนักหรือห้องไอซียู (Intensive Care Unit: ICU) โดยจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะตับอ่อนอักเสบอาจสร้างความเสียหายแก่หัวใจ ปอด หรือไตได้
- ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนตายได้ หากเกิดการติดเชื้อ อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายหรือตายแล้วออกไป
- หากนิ่วในถุงน้ำดีกำเริบ อาจจำเป็นต้องนำถุงน้ำดีออกหรือต้องผ่าตัดท่อน้ำดี โดยหลังจากนำนิ่วในถุงน้ำดีออกและการอักเสบได้หายไปแล้ว ตับอ่อนก็จะกลับมาทำงานเป็นปกติ
- ตับอ่อนอักเสบชนิดเฉียบพลันมักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน อาการของผู้ป่วยมักจะดีขึ้น และหายเป็นปกติหลังรับการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์
- การรักษาตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
- การรักษาตับอ่อนอักเสบเรื้อรังนั้นทำได้ยาก แพทย์จะพยายามรักษาด้วยการลดอาการปวด และช่วยจัดการปัญหาด้านโภชนาการ โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักจะได้รับเอนไซม์ของตับอ่อน และอาจจำเป็นต้องได้รับอินซูลิน รวมถึงปรับไปรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำด้วย
- การผ่าตัดอาจจำเป็นสำหรับผู้ป่วยบางราย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง คืนการระบายเอนไซม์หรือฮอร์โมนของตับอ่อน รักษาตับอ่อนอักเสบที่เกิดจากการปิดกั้นของท่อตับอ่อน หรือลดความถี่อาการกำเริบของโรค
- ผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบเรื้อรังต้องหยุดสูบบุหรี่ และหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่แพทย์และนักโภชนาการแนะนำ รวมไปถึงรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด