โรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย (Rosacea) คือโรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งที่แสดงอาการชัดเจนบนใบหน้า และสามารถพบได้ที่บริเวณลำคอและแผ่นหลังด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมหรือพันธุกรรมก็เป็นได้
สาเหตุของโรคโรซาเซีย
ทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุของโรคโรซาเซียได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดจากเหตุใด แต่อาจจะมีการผสมผสานกันระหว่างสภาพแวดล้อมและพันธุกรรม และจะมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการกำเริบ หรือกระตุ้นอาการได้เช่น :
- รับประทานอาหารที่มีสาร cinnamaldehyde เช่น ซินนามอน ชอคโกแล็ต ผลไม้เป็นกรด และมะเขือเทศ
- การดื่มชาหรือกาแฟร้อน ๆ
- การรับประทานอาหารที่มีรสจัด
- มีเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ ชนิด Helicobacter pylori
- มีไรผิวหนังที่เรียกว่า demodex และเชื้อแบคทีเรีย Bacillus oleronius
- การดื่มแอลกอฮอล์
อาการของโรคโรซาเซียเบื้องต้น
- หน้าแดงตลอดเวลา มีรอยแดงบนใบหน้า
- ผิวระคายเคืองง่าย ใบหน้าอาจจะแสบร้อน
- มีเส้นเลือดฝอยเล็กๆ สีแดงเห็นได้ชัดบริเวณจมูกและแก้ม
- ใบหน้าหรือลำคอมีตุ่มแดงหรือตุ่มหนองคล้ายสิว
- รูขุมขนกว้าง ผิวแห้งกร้าน
การรักษาโรคโรซาเซีย
โรคโรซาเซียยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ แพทย์จะทำได้เพียงควบคุมอาการไม่ให้กำเริบเท่านั้น แต่ทั้งนี้อาการสามารถกลับมาได้ตลอดเวลาหากเจอ สิ่งเร้าจากสภาพแวดล้อมหรืออื่น ๆ ทั้งนี้การรักษาควบคุมอาการก็ขึ้นอยู่กับประเภทที่เป็นและความรุนแรงของอาการด้วย โดยแพทย์อาจจะนำการรักษาดังนี้มาใช้กับคนไข้ :
- IPL (Intense Pulsed Light Therapy) คือการฉายแสงเลเซอร์ และใช้ความยาวช่วงคลื่นแสงยิงตรงไปที่บริเวณผิวที่มีอาการ
- การใช้ยา แพทย์อาจจะสั่งจ่ายยาปฎิชีวินะชนิดรับประทานเพื่อลดการอักเสบและลดเชื้อแบคทีเรีย และยาชนิดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดตุ่มสิว หรือตุ่มคัน หรือผื่นแดง
หากโรคมีอาการกำเริบอาจจะส่งผลที่ใบหน้า จมูกและหน้าผากเท่านั้น และเมื่อเป็นแล้วอาการตั้งแต่หนึ่งอาทิตย์ถึงหนึ่งเดือนและจะหายเองได้หากอาการไม่รุนแรงแต่อาการอาจจะกลับมาอีกครั้ง