ความรู้สึกไม่สบายบริเวณข้อมือ โดยปกติแล้วเกิดจากการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยระยะยาว
สาเหตุทั่วไปของอาการ ปวดข้อมือ
การปวดข้อมืออาจมีสาเหตุที่ไม่ได้มาจากโรคพื้นเดิม ตัวอย่างเช่น เอ็นหรือกล้ามเนื้อยืดเกินไปหรือฉีกขาด การใช้งานมากเกินไป (เทนนิส สกี กอล์ฟ) การไม่ได้ใช้งาน หรือบาดแผล
การรักษา ปวดข้อมือ ด้วยตนเอง
การใช้ยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน หรือพาราเซตามอล อาจช่วยได้ การพักการใช้งานบริเวณที่เป็น การประคบน้ำแข็ง และการใช้ผ้ารัดข้อมืออาจช่วยได้เช่นกัน
ปวดข้อมือ เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
ไปพบแพทย์ในกรณีต่อไปนี้
- ปวดและบวมอย่างต่อเนื่อง
- ปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีผลต่อการทำกิจกรรมประจำวัน
ไปพบแพทย์ทันทีในกรณีต่อไปนี้
- มีการบาดเจ็บที่ข้อมือ
- มีอาการบวม
- ปวดอย่างรุนแรง
- เคลื่อนไหวได้น้อยลงหรือความรู้สึกต่อการสัมผัสมีการเปลี่ยนแปลง
- สังเกตพบข้อมือผิดรูป
โรคที่เกี่ยวข้องกับ ปวดข้อมือ
การบาดเจ็บซ้ำซากจากงานซ้ำๆ
คำที่ใช้อธิบายความเสียหายและความเจ็บปวดที่เกิดจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ และใช้งานหนักเกินไป การแสดงอาการ:
- ปวดข้อมือ
- ความเจ็บปวด
- อาการกดเจ็บ
โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ
อาการชาและเจ็บแปลบที่มือและแขนซึ่งเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณข้อมือ การแสดงอาการ:
- ปวดข้อมือ
- อาการชาที่มือ
- อาการปวดมือในเวลากลางคืน
ข้ออักเสบ
การอักเสบของข้อต่อ ซึ่งทำให้ปวดและเมื่อย โดยอาการจะแย่ลงเมื่ออายุมากขึ้น การแสดงอาการ:
- ปวดข้อมือ
- พิสัยการเคลื่อนไหวของข้อลดลง
- ข้อแข็ง
โรคเอ็นข้อมืออักเสบ
อาการบวมของเนื้อเยื่อ (เอ็น) ที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อกับกระดูกในข้อมือ การแสดงอาการ:
- ปวดข้อมือ
- อาการกดเจ็บ
- ข้อแข็ง
ข้อมือเคล็ด
การยืดหรือการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ (เอ็น) ที่เชื่อมต่อกระดูกกับข้อต่อในข้อมือ การแสดงอาการ:
- ปวดข้อมือ
- ความเมื่อย
- รอยช้ำ