หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน คือ โรคที่ทั้งหูชั้นในและเส้นประสาทการทรงตัวอาจเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการวิงเวียนบ้านหมุนอย่างรุน แรงคล้ายกัน ซึ่งมีสาเหตุและการดูแลรักษาในแนวเดียวกัน
โรคทั้ง 2 ชนิดนี้ พบได้ในคนทุกวัย แต่พบบ่อยในวัยหนุ่มสาว
ประกอบด้วย อวัยวะ 2 ส่วนได้แก่ อวัยวะหอยโข่ง (cochlea) ซึ่งควบคุมเกี่ยวกับการได้ยินกับหลอดกึ่งวง (semicircular canals) 3 อันซึ่งควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัวโดยมีเส้นประสาทเชื่อมต่อกับสมอง เส้นประสาทแขนงที่เชื่อม ระหว่างอวัยวะที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทรงตัว(ในหูชั้นใน) กับสมองมีชื่อว่า เส้นประสาทการทรงตัว (vestibularnerve)
สาเหตุ หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน
โรคทั้ง 2 ชนิดนี้ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน เชื่อว่า เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เนื่องจากพบว่าบางรายจะเกิด อาการหลัง เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น เช่นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
อาการ หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน
หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน จะมีอาการวิงเวียนเห็นบ้านหมุนอย่างรุนแรงคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเกิดขึ้นฉับพลันและต่อเนื่องนานเป็นชั่วโมงๆ ถึงหลายวัน มักมีอาการหูตึงและมีเสียงดังรบกวนในหูข้างหนึ่งร่วมด้วยบางครั้งอาจเป็นรุนแรงจนต้องนอนพัก ทำงานไม่ได้
หลังจากเริ่มมีอาการประมาณ 1 สัปดาห์ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ทุเลาไปได้เองแต่อาจมีอาการบ้านหมุน ชั่วประเดี๋ยว (ไม่เกิน 1-2 นาที) เฉพาะเวลาเคลื่อนไหวศีรษะเร็วๆ เช่น ลุกขึ้นจากเตียง ล้มตัวลงนอน ก้มหรือ เงยศีรษะหรือหันหน้าเร็ว ๆ เป็นต้น อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ อยู่นานหลายสัปดาห์ แล้วหายไปได้เองในที่สุด ส่วนอาการหูตึง อาจค่อย ๆ ทุเลาจนหายเป็นปกติ หรืออาจเป็นอยู่อย่างถาวรก็ได้
เส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ มีอาการแบบเดียวกับหูชั้นในอักเสบเฉียบพลันดังกล่าวข้างต้น แต่จะไม่มีอาการหูตึง และเสียงดังรบกวนในหูร่วมด้วย
สิ่งตรวจพบ
การทดสอบดิกซ์ฮอลล์ไพก์ มักจะให้ผลบวก คือกระตุ้นให้เกิดอาการบ้านหมุนและตากระตุก
ภาวะแทรกซ้อน
ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากอาการบ้านหมุนอาจรุนแรงทำงานหรือขับรถไม่ได้อยู่ระยะหนึ่ง
- บางรายอาจมีอาการของบ้านหมุนจากการเปลี่ยนท่าตามมา ซึ่งจะเป็นอยู่นานหลายสัปดาห์
- บางรายอาจมีอาการหูตึงอย่างถาวร
การป้องกัน หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน
- โรคหูชั้นในอักเสบ บางครั้งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบเป็นภาวะ แทรกซ้อนของ หูชั้นกลางอักเสบ ก็ควรให้ยาปฏิชีวนะเช่นเดียวกับการรักษาหูชั้นกลางอักเสบ
- อาการบ้านหมุน (vertigo) หูตึง มีเสียงดังรบกวนในหู (tinnitus) อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เนื้องอกประสาทหู โรคเมเนียส์ เป็นต้นถ้าให้การดูแลรักษาแบบหูชั้นในอักเสบ 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลาควรส่งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจน
การรักษา หูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน
ในรายที่อาการไม่รุนแรง และยังกินอาหารดื่มน้ำได้ ให้ยาบรรเทาอาการบ้านหมุนอาเจียนเช่นไดเมนไฮดริเนต ครั้งละ 1-2 เม็ด ซ้ำได้ทุก
6 ชั่วโมง
แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการขับรถ การทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร และอย่าเคลื่อนไหวศีรษะในท่าที่ทำให้เกิดอาการ บางครั้งอาจต้องนอนนิ่งๆบนเตียงจนกว่าจะทุเลา
ถ้าดีขึ้นอาจต้องให้ยาต่อไปนาน 2-3 สัปดาห์จนกว่าจะหายเป็นปกติ
แต่ถ้าอาการไม่ทุเลาภายใน1 สัปดาห์หรือมีอาการบ้านหมุนรุนแรง อาเจียนบ่อยหรือกินอาหารและ ดื่มน้ำไม่ได้ ก็ควรส่งโรงพยาบาล หรือปรึกษาแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญ
แพทย์มักจะวินิจฉัยจากลักษณะอาการเป็นหลัก หากไม่แน่ใจอาจต้องทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือดเอกซเรย์ยภาพด้วยเคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้าตรวจสมรรถภาพของการได้ยิน (audiometry) ตรวจคลื่นไฟฟ้าเกี่ยวกับอาการตากระตุก (electronystagmography / ENG)
เป็นต้น
การรักษา ให้ยาบรรเทาอาการ ถ้าเป็นรุนแรงหรือกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจต้องใช้ยาฉีด เช่นไดอะซีแพม 10 มก. ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือโพรคลอร์เพอราซีน (prochlorperazine) 12.5 มก. ฉีดเข้ากล้าม เมื่อดีขึ้นค่อยเปลี่ยนเป็นยาเม็ดไดเมนไฮดริเนต 1-2 เม็ดหรือโพรคลอร์เพอราซีน 5-10 มก.ทุก 6 ชั่วโมงให้กินต่อจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ผลการรักษา ส่วนใหญ่จะค่อยๆ ทุเลาไปได้เอง(ยาที่ให้เป็นเพียงการบรรเทาให้รู้สึกสุขสบาย)บางรายอาจมีอาการเมารถเมาเรือง่ายหรือบ้านหมุนจากการเปลี่ยนท่า ซึ่งจะเป็นอยู่หลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนๆ แล้วในที่สุดหายไปได้เอง