แสบตา (Burning Eyes)

อาการแสบตา (Burning Eyes) คืออาการระคายเคืองและมีอาการแสบคันและบวมแดงบริเวณดวงตาร่วมด้วย   

ในขณะที่เมื่อเกิดอาการ ผู้ป่วยสามารถไปร้านขายยาเพื่อหายาหยอดตา หรือครีมทาเพื่อลดอาการระคายเคืองรอบดวงตา แต่รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถบรรเทาอาการแสบตาได้เองที่บ้านด้วยเช่นกันด้วยวิธีธรรมชาติ

สาเหตุ แสบตา

สาเหตุที่อาจทำให้แสบร้อนหรือแสบ ได้แก่ :

เปลือกตาอักเสบ

เปลือกตาอักเสบ ต่อมน้ำมันอุดตันที่โคนขนตาอาจทำให้เกิดอาการนี้ได้ อาการอื่น ๆ ที่วสมารถเกิดขึ้นได้พร้อมกัน คือ น้ำตาไหล คันเปลือกตา  ดวงตาไวต่อแสง ขนตาร่วง  เปลือกตาอักเสบไม่ใช่โรคติดต่อแต่สามารถเป็นอาการเรื้อรังได้

ตาแห้ง

ตาแห้งทำให้เกิดอาการแสบร้อน ตาแดง ไวต่อแสง มีเยื่อเมือกรอบดวงตา และทำให้ดวงตารู้สึกอ่อนล้า ตาแห้งอาจทำให้การสวมใส่คอนแทคเลนส์เป็นไปได้ยากและก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายมากขึ้น

มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถทำให้ตาแห้งได้ รวมไปถึงการสัมผัสกับฝุ่น ควัน และลม แพ้อากาศ การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป รวมถึงหรือการทานยาต้านฮีสตามีนยาลดอาการชักหรือยากล่อมประสาทจะส่งผลข้างเคียงให้มีอาการตาแห้งเช่นกัน   

โรคภูมิแพ้ขึ้นตา

โรคภูมิแพ้ขึ้นตาสามารถก่อให้เกิดอาการแสบตาได้ และนอกจากนี้ ควันและฝุ่นเป็นปัจจัยเร้าก่อให้เกิดอาการแพ้ ทำให้ดวงตารู้สึกไม่สบาย รวมไปถึงอาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก ไอและเจ็บคอ  

การเผาไหม้ของกระจกตา Snow blindness (Photokeratitis)

การที่ดวงสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์มากเกินไปอาจทำให้ดวงตาของคุณถูกแดดเผาได้ สิ่งนี้สามารถทำให้เกิดการแสบตา ตาแดง ดวงตาไวต่อแสง ปวดศีรษะ ตาพร่าและสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว

โรคโรซาเซียที่ตา

โรคโรซาเซียที่ตาทำให้เกิดการอักเสบรอบดวงตาพร้อมกับอาการแสบ คันตารวมไปถึงตาแดง แสบรอบดวงตา   โรคโรซาเซียที่ตาสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีภาวะผิวหนังโรซาเซีย 

ต้อเนื้อ

ต้อเนื้อ บางครั้งแพร่กระจายไปยังกระจกตาและรบกวนการมองเห็น ทำให้มีอาการแสบตา น้ำตาไหล ไปจนถึงความรู้สึกของสิ่งแปลกปลอมในดวงตา อาการนี้สามารถผ่าตัดต้อเนื้อออกไปได้แต่สามารถกลับมาเป็นได้อีก

ตาแดง

ตาแดงคือการอักเสบของเยื่อบุตา โรคตาแดงเป็นภาวะติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย หรือบางครั้งสามารถเกิดขึ้นเนื่องจากสารก่อภูมิแพ้ได้ ส่งผลให้เกิดอาการแสบแดง

ตาล้า

หากดวงตาของคุณมีอาการแสบจากจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างเกินไปอาจทำให้ปวดตาได้ อาการอื่น ๆ ได้แก่ การมองเห็นภาพซ้อน น้ำตาไหล ตาแห้งและดวงตาไวต่อแสง นอกจากนี้ยังสามารถเกิดอาการปวดตาได้หลังจากขับรถเป็นระยะทางไกลและหลังจากสัมผัสกับอากาศแห้ง

อาการ แสบตา

อาการแสบตามักเกิดขึ้นร่วมกับอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ตาแดงเรื่อ ๆ หรือตาแดงมาก
  • เปลือกตาบวม
  • ตาแฉะ
  • มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว
  • มีคราบน้ำเหลืองบริเวณโคนขนตาหรือหัวตา
  • ไวต่อแสงหรือแพ้แสง
  • ลืมตาลำบากในตอนเช้าเนื่องจากดวงตาชื้นแฉะ
  • ในกรณีที่รุนแรง อาจมีรอยแผลหรือรอยขีดข่วนบนกระจกตา ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้

อาการสำคัญที่ควรไปพบแพทย์

  • เปลือกตาบวมอักเสบมากขึ้น
  • ขี้ตาเป็นสีเขียว ซึ่งอาจเป็นผลจากเชื้อแบคทีเรีย
  • เจ็บมากหรือดวงตาไวต่อแสงมากขึ้น
  • ความสามารถในการมองเห็นลดลง เห็นภาพมัว
  • หากอาการตาแดงไม่หายหรือดีขึ้นภายใน 3-5 วัน

การรักษา แสบตา

อาการแสบตาอาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถลืมตา หรือมองเห็นภาพต่าง ๆ ได้ตามปกติ

แต่คุณสามารถปฎิบัติตามคำแนะนำนี้ได้เองเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการแสบตา:

  • ล้างเปลือกตาด้วยน้ำอุ่น สามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคืองออกจากดวงตา ลดการอักเสบ 
  • ใช้ลูกประคบอุ่นปิดตาสักสองสามนาทีวันละหลาย ๆ ครั้ง หรืออาจจะเป็นผ้าก๊อตหรือสำลี
  • ผสมแชมพูเด็กเล็กน้อยกับน้ำอุ่น จุ่มสำลีลงในน้ำแล้วใช้ทำความสะอาดโคนขนตา  วิธีนี้จะคลายการอุดตันของต่อมน้ำมันและลดการอักเสบ
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา เนื่องจากตาแห้งอาจทำให้เกิดอาการแสบแสบร้อนและระคายเคือง
  • งดการใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือชั่วคราวจนกว่าอาการจะดีขึ้น
  • สวมใส่แว่นตาเพื่อปกป้องดวงตาจากแสงแดดและลม
  • รับประทานอาหารหรืออาหารเสริมที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3  เพื่อบรรเทาอาการตาแห้งและแสบร้อน  เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะตักและปลาซาร์ดีน คุณยังสามารถได้รับโอเมก้า 3 จากเมล็ดแฟลกซ์ได้หากคุณเป็นมังสวิรัติ  
  • ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศบรรเทาอาการตาแห้ง
  • ใช้แตงกวาแปะบริเวณดวงตาเพื่อลดอาการอักเสบบวมและแสบร้อน
[Total: 0 Average: 0]