โรคตาแดงระบาด คือ โรคที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ พบได้ประปรายตลอดปีเนื่องจากโรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายและระบาดได้รวดเร็ว อาจเรียกว่า เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส ซึ่งมักพบ ระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนกึงธันวาคมโดยอาจพบระบาดภายในบ้าน ตามหมู่บ้านโรงเรียนโรงงาน ที่ทำงานค่ายทหาร เป็นต้น
สาเหตุ โรคตาแดงระบาด
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ที่พบบ่อยที่สุด คือ กลุ่มไวรัสอะดิโน (adenovirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิดย่อย ๆ
ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 3 และ 7) ทำให้มีไข้และการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับคอหอย เรียกว่าไข้เยื่อตาขาวอักเสบและคอหอยอักเสบ (pharyngoconjunctival fever) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูก มือหรือสิ่งของเครื่องใช้ (เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สบู่ ขันน้ำ ลูกบิดประตูโทรศัพท์ เป็นต้น) ที่ แปดเปื้อนเชื้อ และยังอาจติดต่อแบบเดียวกับคอหอย อักเสบ (ไอ จาม หรือสัมผัสถูกสิ่งคัดหลั่งในช่องปากของผู้ป่วย) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน
ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 8‚19 และ 37) ทำให้มีการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับกระจกตาอักเสบ และมีลักษณะระบาดได้รวดเร็ว เรียกว่าเยื่อตาขาวและกระจกตาอักเสบชนิดระบาด (epidemic keratoconjunctivitis/ EKC) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูก สิ่งของเครื่องใช้ และอาจติดต่อจากการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน (จากผู้ป่วยที่ลงเล่นน้ำ) มีระยะ ฟักตัว 5-12 วัน
นอกจากนี้ยังมีไวรัสอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญ ของโรคนี้ คือ กลุ่มไวรัสพิคอร์นา (picornavirus) ซึ่ง มีอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ไวรัสเอนเทอโรชนิด70 (enterovirus type 70) และไวรัสค็อกแซกกีเอชชนิด 24 (coxsackie virus A type 24) ทำให้เยื่อตาขาวอักเสบร่วมกับเลือดออกใต้เยื่อตาขาว เรียกว่า “ Acute hemorrhagic conjunctivitis” ซึ่งพบระบาดได้เช่นกัน ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้มีระยะฟักตัว 1-2 วัน
อาการ โรคตาแดงระบาด
มีอาการตาแดง เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหลมีขี้ตาเล็กน้อย อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้น
- ในรายที่เป็นไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ จะมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย
- ในรายที่มีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย หาก เป็นรุนแรงมักมีอาการปวดตาและสายตามัว
- อาการตาแดงตาอักเสบมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่ง ก่อน แล้วจึงลามมาอีกข้างหนึ่ง
- ส่วนมากอาการมักจะลุเลาภายในไม่กี่วัน และจะหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์
ข้อแนะนำ โรคตาแดงระบาด
ระหว่างที่มีการระบาดควรหาทางป้องกันโดย แนะนำให้คนทั่วไประวังการสัมผัสกับผู้ป่วย ควรล้างมือ บ่อย ๆ ด้วยสบู่ ห้ามใช้มือขยี้ตา อย่าคลุกคลีหรือนอน ร่วมกับคนที่เป็นโรคนี้ ห้ามใช้ของใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หมอน แก้วน้ำ จาน ชาม สบู่ ขันน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้น) ร่วมกับผู้ป่วย และควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำใน สระว่ายน้ำ
- โรคนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อย และหายได้ เองภายใน 1-3 สัปดาห์ ส่วนในรายที่มีกระจกตาอักเสบ ร่วมด้วยก็มักจะไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น แผลกระจกตา) แต่อาจเป็นกระจกตาอักเสบแบบเรื้อรัง หากสงสัยก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ผู้ป่วยควรหยุดเรียนหรือหยุดงานนาน 2 สัปดาห์ และควรล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ แพร่กระจายให้ผู้อื่น
- ผู้ป่วยควรพักผ่อนให้เพียงพอห้ามตรากตรำงานหนัก หรือออกกำลังหักโหมเกินไป
การรักษา โรคตาแดงระบาด
ให้การรักษาตามอาการ เช่นให้พาราเซตามอล ประคบตาด้วยความเย็น ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดตา เป็นต้น และใช้ยาหยอดตาลดการอักเสบ เช่น ยาหยอดตาฮิสตาออป (Hista opt eye drop) หรือใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตาที่เข้ายาปฏิชีวนะ ทุก 2-4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
ถ้าไม่ดีขึ้นใน1สัปดาห์ หรือมีอาการรุนแรง เช่น ปวดตารุนแรงกระจกตามีลักษณะขุ่นมัวหรือเป็นแผล มีการติดกันของเยื่อตาขาวกับลูกตา แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น ควรส่งโรงพยาบาล แพทย์จะให้การรักษาตามลักษณะอาการหรือภาวะแทรกซ้อนที่พบ
ถ้าตรวจพบว่ามีการอักเสบของเยื่อตาขาวอย่างรุนแรง หรือมีการอักเสบของกระจกตาจนทำให้สายตา มัวลงอย่างมาก แพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสตีรอยด์ ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะ อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาจทำให้โรคเริมที่แฝงอยู่ กำเริบได้