ReLEx SMILE (Refractive Lenticule Extraction, Small Incision Lenticule Extradition) เป็นเทคโนโลยีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติล่าสุด จะเป็นการรักษาโดยใช้การปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตาภายในชั้น stroma โดยไม่ต้องทำการแยกชั้นกระจกตาเป็น flap เหมือนในวิธีเลสิก แต่จะใช้การคํานวนค่าชิ้นเนื้อในชั้น stroma แบบ 3 มิติ ที่เรียกว่า Lenticule แล้วทำการตัดแยกชิ้น Lenticule ดังกล่าวออกจาก stroma ด้านใน โดยใช้ Femtosecond Laser หลังจากนั้นจะนํา Lenticule ออกจากกระจกตาผ่านแผลขนาดเล็กประมาณ 3 มม. ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะเป็นการปรับเปลี่ยนความโค้งกระจกตาเพื่อแก้ไขสายตาสั้นและเอียง โดยรบกวนกระจกตาน้อยที่สุด ส่งผลให้โครงสร้างของกระจกตาหลังผ่าตัดมีความแข็งแรงมากกว่าวิธี LASIK
ทำไม ReLEx SMILE จึงเหมาะกับผู้ที่มีตาแห้งมากกว่าการทำเลสิค?
บริเวณผิวของกระจกตาเป็นส่วนที่ไวต่อความรู้สึกที่สุดในร่างกาย การกระพริบตาเมื่อถูกสัมผัสที่ผิวหน้าของกระจกตาแบบเฉียบพลันเป็นกลไกที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุหรืออันตรายที่อาจเกิดต่อดวงตาได้ นอกจากนี้ เส้นประสาทรับความรู้สึกที่บริเวณผิวกระจกตายังเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตน้ำตาอีกด้วย กลุ่มของเส้นประสาทรับความรู้สึกดังกล่าวจะมีจำนวนหนาแน่นที่บริเวณผิวส่วนหน้าของกระจกตาซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกแสงเลเซอร์ตัดผ่านในขั้นตอนหนึ่งของการทำเลสิค
การทำเลสิคจะมีขั้นตอนในการแยกชั้นกระจกตาก่อน แล้วจึงใช้ Excimer Laser ปรับความโค้งของกระจกตา ซึ่งในขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตาจะเกิดขึ้นที่บริเวณผิวกระจกตาส่วนหน้าซึ่งมีเส้นประสาทรับความรู้สึกเป็นจำนวนมาก ในขณะที่การรักษาด้วยวิธี ReLEx SMILE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของการรักษาภาวะสายตาผิดปกติที่มีความอ่อนโยนต่อดวงตาสูง จะไม่มีขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตา แต่จะใช้ Femtosecond Laser ทำให้เกิดเป็นชิ้นเลนส์บางๆ ที่เรียกว่า lenticule ภายในเนื้อกระจกตาแทน lenticule จะถูกนำออกมาผ่านทางแผลเล็กๆ ที่กระจกตาขนาด 2-3 มิลลิเมตร และเนื่องจากขั้นตอนการสร้าง lenticule จะอยู่ในชั้นที่ลึกลงมาจากผิวกระจกตาซึ่งเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกน้อยกว่าจึงทำให้อาการตาแห้งหลังการทำ ReLEx SMILE น้อยกว่าการทำเลสิคนั่นเอง
ในทางทฤษฎี พบว่า เส้นประสาทรับความรู้สึกที่ผิวกระจกตาจะเริ่มฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมภายใน 2-3 เดือน ดังนั้นอาการตาแห้งในผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีเลสิคจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากทำเลสิคผ่านไป 2-3 เดือนเช่นกัน
ขั้นตอนการรักษาด้วยวิธี ReLEx SMILE
- ใช้ Visumax Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตาให้เป็นเลนส์ในเนื้อกระจกตา (Lenticule) เพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมกับค่าสายตาที่ต้องการแก้ไข โดยไม่ทำลายผิวกระจกตาชั้นนอกสุด
- ทำการเปิดแผลเล็กขนาด 2-5 mm. ด้วย Visumax Femtosecond Laser
- นำเลนส์ในเนื้อกระจกตา (Lenticule) ออกผ่านแผลเล็ก
ข้อดี ReLEx SMILE
- ไม่มีการแยกชั้นกระจกตาให้เกิดแผล
- ระคายเคืองตาหรือปวดตาน้อยมาก ถึงไม่มีเลย
- ภาวะตาแห้งน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธี PRK และ LASIK
- คงรักษาโครงสร้างทางกายภาพ และความแข็งแรงของเนื้อกระจกตาไว้ได้มากกว่า และดีกว่าวิธี PRK และ LASIK
- ไม่มีความเจ็บปวดระหว่างทำการผ่าตัด,ใช้พลังงานน้อยมากในการแก้ปัญหาค่าความผิดปกติของสายตา แม้ว่าจะเป็นค่าสายตาที่สูงมากๆ ต่างกับวิธี LASIK
- ระยะเวลาในการทำการผ่าตัดน้อยกว่า PRK และ LASIK
- โอกาสเกิดภาวะแสงกระจายตอนกลางคืนน้อยกว่าวิธี PRK และ LASIK
ข้อเสีย ReLEx SMILE
- เน้นการฝึกทักษะความชำนาญของแพทย์เป็นกรณีพิเศษวิธี ReLEx SMILE
- ระยะเวลาในการฟื้นตัวช้ากว่าหรือใกล้เคียงกับวิธเลสิก แต่เร็วกว่า พีอาร์เค
- ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในกลุ่มคนไข้สายตายาวได้
ผลดีของการรักษาด้วยวิธี ReLEx SMILE
- ไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างผ่าตัด เพราะไม่มีการกดทับกระจกตาของเครื่องมือในขั้นตอนการผ่าตัด
- กระจกตาหลังการรักษามีความแข็งแรง เพราะ ReLEx SMILE เป็นการผ่าตัดที่รบกวนกระจกตาน้อยที่สุด แผลมีขนาดเล็ก ความโค้งกระจกตาหลังการรักษามีรูปร่างดี
- ลดโอกาสการเกิดปัญหาการมองเห็นแสงแตกกระจายในที่แสงน้อย
- ลดโอกาสการเกิดภาวะถดถอยของสายตาหลังการผ่าตัดในระยะยาว
- ลดอาการตาแห้งได้ เพราะมีการรบกวนเส้นประสาทของกระจกตาน้อย
ผู้ที่เหมาะสมกับการรักษาวิธี ReLEx
- มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี และอายุสูงสุดไม่เกิน 60 ปี
- กรณีผู้เข้ารับการรักษาอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันตรวจ และวันผ่าตัด
- กรุณานำผู้ปกครองตามกฏหมายมาเข้ารับฟังข้อมูลด้านการรักษาในวันตรวจ
- ในวันผ่าตัดผู้ปกครองตามกฏหมายลงนามในเอกสารแสดงความจำนงและยินยอมเข้ารับการผ่าตัด แพทย์สามารถปฏิเสธการรักษา หากไม่มีผู้ปกครองตามกฏหมายมาด้วย)
- ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย ตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่น เช่น จอประสาทตาเสื่อม
- ไม่มีโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค SLE, โรค Sjogren’s syndrome, โรคสะเก็ดเงิน, โรคภูมิคุ้มกันเกินอื่นๆ รวมทั้งเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
- การหยุดยาบางประเภท
- ยารักษาสิวชนิดรับประทานในกลุ่ม Isotretinoin เช่น Roaccutane, Acnotin, Isotret ต้องหยุดยาก่อนวันตรวจวิเคราะห์สภาพตา และก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือนเต็ม เนื่องจากยาชนิดนี้ ส่งผลให้เยื่อบุต่างๆ แห้งกว่าปกติ รวมถึงผิวกระจกตาด้วย
- หากใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่นๆ ใดอยู่ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบในวันตรวจ เช่น เบาหวาน, ความดัน, ไขมัน, ยาไทรอยด์ และยานอนหลับทุกชนิด แต่ท่านยังคงใช้ยาได้ตามปกติ ไม่ต้องหยุดยาใดๆ ในวันตรวจ
- สตรีไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หากวางแผนตั้งครรภ์ต้องหลังผ่าตัดอย่างน้อย 3 เดือน
- สตรีหลังคลอดบุตรรอบเดือนต้องมาอย่างน้อย 2 ครั้งติดต่อกัน
- ไม่ได้อยู่ระหว่างการใช้ยาในการรักษาอาการทางจิตเวช
- ผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาโดยจักษุแพทย์ว่าสุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง สามารถเข้ารับการรักษาด้วย ReLEx SMILE ได้ตามมาตรฐานความปลอดภัย
- มีความเข้าใจถึงการผ่าตัดด้วย ReLEx SMILE อย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง
DO & DON’T ก่อน – หลังทำ ReLEx SMILE
ก่อนทำ ReLEx SMILE
DO ต้องทำ
ต้องมาตรวจประเมินก่อนทําผ่าตัด โดยต้อง
- หยุดใส่คอนแทคเลนส์แบบนิ่ม (Soft Lens) ก่อนตรวจประเมินสภาพตาและก่อนผ่าตัด 3 – 7 วัน
- หยุดใส่คอนแทคเลนส์แบบแข็ง (Hard Lens) หรือแบบกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) ก่อนตรวจประเมินสภาพตาและก่อนผ่าตัด 7 – 14 วัน โดยสามารถสวมใส่แว่นตาแทนได้ในช่วงนั้น
- ควรหยุดใช้ยาบางประเภท เช่น ยาแก้สิว Roaccutane ก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนผ่าตัด
ในวันผ่าตัด
- สวมเสื้อผ่าหน้าหรือกระดุมหน้าในวันผ่าตัด
- ล้างหน้า สระผมให้พร้อม
- มีเพื่อนหรือญาติมารับกลับบ้านหลังทําผ่าตัด
DON’T ต้องเลี่ยง
- งดแต่งหน้า โดยเฉพาะรอบดวงตา
- งดฉีดสเปรย์และน้ำหอม
- งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์
หลังทำ ReLEx SMILE
DO ต้องทำ
- หยอดยาฆ่าเชื้อและน้ำตาเทียมตามแพทย์สั่ง
- ปิดฝาครอบตาก่อนนอนทุกคืน 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเผลอขยี้ตา
- ถ้าดวงตาล้าให้พักสายตาเป็นระยะ ๆ
- ใส่แว่นกันแดดเมื่ออยู่บริเวณที่มีแสงจ้า ลดอาการเคืองตาและแสบตา
- หลังตรวจตาครบ 1 สัปดาห์สามารถล้างหน้าสระผมได้
DON’T ต้องเลี่ยง
- ห้ามขยี้ตา
- ห้ามน้ำหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
- งดใช้งานมือถือหรือคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน ๆ
- งดแต่งหน้าบริเวณใกล้ดวงตาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ห้ามว่ายน้ำหลังทำ 2 สัปดาห์
- ห้ามดำน้ำหลังทำ 4 สัปดาห์