โรคฮีน็อค ชอนไลน์ เพอพูรา (Henoch-Schönlein purpura (HSP)) คือโรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบและมีเลือดรั่ว ชื่อโรคตั้งตามนายแพทย์ชาวเยอรมันสองท่าน Johann Schönlein และ Eduard Henoch เป็นแพทย์ที่อธิบายโรคนี้ให้คนไข้ในปี 1800
อาการที่แสดงให้เห็นได้ชัดของโรค HSP คือการขึ้นผื่นสีแดงอมม่วงที่บริเวณขาและก้น ผื่นที่ขึ้นมาแลจะดูคล้ายรอยฟกช้ำ โรค HSP ยังเป็นสาเหตุให้ข้อบวม มีอาการกับระบบทางเดินอาหาร และไตมีปัญหา
สาเหตุ โรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบ
โรค HSP มีสาเหตุมาจากการอักเสบในหลอดเลือดเล็ก เมื่อหลอดเลือดมีการอักเสบพวกมันก็จะมีเลือดรั่วออกมาสู่ผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดผื่น เลือดยังสามารถรั่วในช่องท้องและไตได้ด้วย
โรค HSP ที่ปรากฎให้เห็นเป็นเพราะการตอบสนองต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายที่มากเกินไป ตามปกติแล้วระบบภูมิต้านทานของเราจะผลิตโปรตีนที่เรียกว่าแอนติบอดี้ที่มีหน้าที่ค้นหาและทำลายผู้บุกรุกเช่นเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ในผู้ป่วยที่เป็นโรค HSP จะพบแอนติบอดี้ชนิด A (IgA)สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบขึ้น
อาการ โรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบ
อาการหลักๆของโรค HSP คือการขึ้นผื่นสีแดงอมม่วงที่บริเวณขา เท้าหรือก้น ผื่นดังกล่าวอาจขึ้นที่ใบหน้า แขน หน้าอกหรือลำตัวได้ จุดในรอยผื่นดูคล้ายรอยฟกช้ำ หากคุณกดลงไปที่รอยผื่น รอยสีม่วงจะคงอยู่จะไม่เปลี่ยนเป็นสีขาว
โรค HSP ส่งผลกระทบต่อข้อต่อ ลำไส้ ไตและระบบอื่นๆ ทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้:
- ข้อต่อเจ็บและบวม โดยเฉพาะเข่าและข้อเท้า
- มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด
- มีเลือดในปัสสาวะ (ซึ่งอาจจะน้อยเกินกว่าจะเห็น) และสัญญานอื่นๆที่แสดงว่าไตเสียหาย
- อัณฑะบวม (เฉพาะในเด็กผู้ชายที่เป็นโรค HSP)
- โรคลมชัก (พบได้น้อย)
การปวดข้อและอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอาจเริ่มมีอาการประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนผื่นขึ้นให้เห็น
บางครั้งโรคนี้ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับไตแบบถาวรได้.
การรักษา โรคหลอดเลือดขนาดเล็กอักเสบ
โรค HSP นี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา สามารถหายได้เองภายในสองสามสัปดาห์ การพักผ่อน ทานน้ำเยอะๆ ทานยาบรรเทาอาการปวดที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเช่น ไอบูโรเฟน หรืออะเซตามีโนเฟนหรือยาพาราเซตามอน ก็สามารถช่วยให้คุณหรือลูกของคุณรู้สึกดีขึ้นได้แล้ว.
ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาพวกยากลุ่ม NSAIDs เช่น นาพรอกเซน หรือไอบูโรเฟน หากมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เพราะยากลุ่ม NSAIDs บางครั้งอาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม และควรหลีกเลี่ยงในรายที่ไตมีการอักเสบหรือบาดเจ็บ