การส่องกล้องดูเมดิแอสตินั่ม (mediastinoscopy) เป็นการส่องกล้องเข้าไปดูโครงสร้างของเมดิแอสตินั่ม (mediastinum) อาจตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และอาจนำเสมหะไปตรวจดูเซลล์ ทำสแกนปอด (lung scans) ถ่ายภาพรังสี และตัดชิ้นเนื้อที่หลอดลม คอเพื่อการวินิจฉัยโรค
ร่วมด้วย
วัตถุประสงค์การส่องกล้องดูเมดิแอสตินั่ม
- เพื่อตรวจดูและชี้ขาดว่า ผู้ป่วยเป็นมะเร็งหลอดลม (Bronchogenic carcinoma) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma รวมทั้ง Hodgkin’s disease) และ โรคภูมิแพ้ตัวเอง (Sarcoidosis) หรือไม่
- เพื่อตรวจดูและชีขาดว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะใด
การเตรียมผู้ป่วย
1.การตรวจนี้ใช้ประเมินต่อมน้ำเหลือง และโครงสร้างอื่น ๆ ในทรวงอก ถามประวัติผู้ป่วยว่าเคยส่องกล้องดูเมดิแอสตินั่มมาก่อนหรือไม่ เนื่องจากอาจทำให้มีแผลเป็นซึ่งเป็นข้อห้ามในการตรวจครั้งนี้
2.บอกวิธีการตรวจและตอบคำถามผู้ป่วย
3.ให้ผู้ป่วยงดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืนก่อนตรวจ
4.บอกผู้ป่วยว่าจะได้รับยาสลบ (general anesthesia) และการตรวจนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
5.บอกผู้ป่วยว่าอาจมีอาการเจ็บหน้าอก (chest pain) ชั่วคราว กดเจ็บบริเวณที่ตัดชิ้นเนื้อ และมีอาการเจ็บคอจากการใส่ท่อ
6.ช่วยให้ผู้ป่วยแน่ใจว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตรวจนี้น้อยมาก
7.ให้ผู้ป่วยหรือญาติเซ็นใบยินยอมรับการตรวจรักษาให้เรียบร้อยก่อนตรวจ
8.ตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยาสลบหรือไม่
9.ให้ยานอนหลับคืนก่อนตรวจ และก่อนใส่กล้องตามแผนการรักษา
การตรวจและการดูแลภายหลังตรวจ
1.หลังจากใส่ทอหลอดลมคอแล้วกรีดผิวหนัง (incision) ด้านตัดขวางเล็กๆ บริเวณเหนือกระดูกสันอก (suprasternum)
2.ใส่กล้อง mediastinoscope และตัดชิ้นเนื้อแช่แข็งส่งห้องตรวจ
3.ถ้าจากการวิเคราะห์สามารถยืนยันว่าก่อนที่พบเป็นมะเร็ง (malignancy) อาจทำการผ่าตัดในช่องอก (thoracotomy) และผ่าตัดเอาปอดออก (pneumonectomy) ทันที
4.บันทึกสัญญาณชีพหลังผ่าตัด และตรวจดูว่าแผลมีเลือดออก หรือแผลมีรูรั่วซึมหรือไม่
5.สังเกตภาวะแทรกซ้อน เช่น มีไข้ (ซึ่งเป็นการอักเสบของเมดิแอสตินั่ม) มีเสียงกรอบแกรม (ซึ่งเป็นอาการของการมีลมรั่วแทรกเข้าใต้ผิวหนังหรือเรียกว่าSubcutaneous emphysema) มีอาการเหนื่อย เขียว และเสียงหายใจเบาลง (ซึ่งเป็นอาการของภาวะที่มีลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด หัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตต่ำ (ซึ่งเป็นอาการของเลือดออก)
6.ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
ข้อควรระวัง
ส่งสิ่งส่งตรวจไปยังห้องตรวจทันที
ผลการตรวจที่เป็นปกติ
พบต่อมน้ำเหลืองมีขนาดเล็ก เรียบ รูปวงรีแบน
ผลการตรวจที่ผิดปกติ
พบต่อมน้ำเหลืองเป็นเซลล์มะเร็งซึ่งรักษาไม่ได้ แต่มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหารหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เช่น Hodgkin’s disease สามารถรักษาได้