มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ คือ
- พบประมาณร้อยละ 3 ของมะเร็งทั้งหมด
- พบเป็นอันดับที่ 6 ของมะเร็งในผู้ชาย รองจากมะเร็งต่อมลูกหมาก
- พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 4 เท่า พบมากในช่วงอายุ 50-70 ปี
สาเหตุ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่าส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว การทำงานเกี่ยวกับสีย้อมผ้าสีย้อมไม้ หรือสีย้อมหนังที่มีสารเคมีบางชนิด เช่น อะนิลีน (aniline) สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน เป็นต้น การบริโภคขัณฑสกร การระคายเคืองและการอักเสบจากก้อนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ การดื่มน้ำที่มีสารหนูเจือปน การดื่มน้ำน้อยเกินไปในแต่ละวัน
อาการ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ระยะแรกมักไม่มีอาการแสดง อาจตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์ด้วยอาการปัสสาวะ เป็นเลือด โดยไม่มีอาการเจ็บปวด บางรายอาจมีเพียงอาการเลือดหยอดออกมาตอนปัสสาวะสุด บางรายอาจมี อาการคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบคือ ปัสสาวะบ่อย แสบขัดเนื่องจากเลือดที่ออกมาจับเป็นลิ่มในกระเพาะปัสสาวะ
ในระยะลุกลาม มักมีอาการปวดท้องน้อยคลำได้ก้อนที่บริเวณหัวหน่าว และอาการแสดงของภาวะแทรก ซ้อนต่าง ๆ เช่น ซีด ท่อไตอุดตันจนกลายเป็นไตวายการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะอื่น ๆ
การป้องกัน มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ลดความเสี่ยงลงด้วยการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนก่อนนอน เพราะจะมีการตกค้างของสารก่อมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานานในช่วงนอนหลับ ดื่มน้ำให้มาก ๆ ทุกวันกินผักและ ผลไม้ให้มาก ๆ
การรักษา มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
หากสงสัย (เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด หรือรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วไม่ดีขึ้น) ควรส่งโรงพยาบาล แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะจำนวนมาก และเซลล์มะเร็งในปัสสาวะ หากสงสัยก็จะใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะปัสสาวะ cystoscopy และตัดชิ้นเนื้อพิสูจน์ บางรายแพทย์อาจ ถ่ายภาพรังสีกระเพาะปัสสาวะ ตรวจอัลตราซาวนด์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อดูการลุกลามของมะเร็ง ให้การรักษาด้วยการผ่าตัด (อาจหายขาดได้ถ้าเป็นระยะ แรกที่มีเพียงรอบแผลตื้น ๆ) ส่วนในระยะลุกลามจะ รักษาด้วยผ่าตัด ร่วมกับรังสีบำบัด และเคมีบำบัด