การรักษา แผลปริที่ปากทวาร

1. ให้การดูแลรักษาดังนี้

  • ถ้ามีอาการท้องผูกให้ยาระบาย – อีแอลพี หรือสารเพิ่มกากใย)
  • นั่งชีน้ำอุ่นจัด ๆ หลังถ่ายอุจจาระทุกครั้งครั้งละ 10 -15 นาที จะช่วยให้กล้ามเนื้อทวารหนักคลายตัว ลดปวด และเพิ่มเลือดไปเลี้ยงแผลมากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ทาแผลด้วยวาสลินช่วยให้หล่อลื่น หรือครีมสตีรอยด์ หรือขี้ผึ้งพร็อกโตซีดิล (Proctosedyl) หรือขี้ผึ้งเชอริพร็อกต์  (Scheriiproct) ซึ่งมีสตีรอยด์ผสมเพื่อลดการอักเสบ ทาเช้าและก่อนนอน และหลังถ่ายอุจจาระ
  • ถ้าปวดมากให้ยาแก้ปวด ควรหลีกเลี่ยงยาแก้ปวดที่เข้าสารฝิ่นหรืออนุพันธ์ของฝิ่น เพราะอาจทำให้ท้องผูก

2. ถ้าไม่ดีขึ้นใน 4 สัปดาห์ หรือพบรอยปริอยู่นอกแนวกึ่งกลางของผนังด้านหลังหรือด้านนอก (ซึ่งอาจมีสาเหตุอื่นๆ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอดส์มะเร็ง เป็นต้น) ควรส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุ

ในรายที่เป็นแผลปริปากทวารหนักแบบเรื้อรังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้การรักษาด้วยการฉีดสารโบทูลิน (มีชื่อการค้า เช่น Botox) เข้าไปในหูรูดชั้นใน (internal sphincter) เพื่อให้กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัว ยานี้จะออกฤทธิ์นาน 3 เดือน ถ้าหลังรักษาด้วยวิธีนี้ 3 เดือนแล้วมีอาการกำเริบอีกก็อาจต้องผ่าตัดแก้ไข ซึ่งมักจะได้ผลดีส่วนใหญ่มักจะหายขาด ประมาณร้อยละ 10–20 อาจกลับเป็นซ้ำ

[Total: 0 Average: 0]